xs
xsm
sm
md
lg

โลจิสติกส์ต้องปรับตัว รับมือหลังเปิด AEC

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กานต์ ตระกูลฮุน
เอสซีจี เตรียมพร้อมรับมือเปิด AEC จับมือเครือข่ายผู้ประกอบการขนส่งกว่า 200 รายทั่วประเทศ ยกระดับการให้บริการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ สู่จุดหมายเป็นผู้นำบริการด้านโลจิสติกส์ในอาเซียน เผยไทยได้เปรียบเพราะเป็นจุดศูนย์กลางการขนส่ง

ผ่านพ้นไปแล้ว สำหรับการประกาศความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ ด้านการขนส่งสินค้าอย่างครบวงจร เพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน(AEC) ในปี 2558 ระหว่างบริษัทเอสซีจี โลจิสติกส์ ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าอย่างเต็มรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ กับเครือข่ายผู้ประกอบการด้านธุรกิจขนส่งทั่วประเทศกว่า 200 ราย

ความร่วมมือครั้งนี้ มีจุดประสงค์ยกระดับการให้บริการการขนส่งเพื่อเตรียมรับมือกับการเปิด AEC โดยมียุทธศาสตร์อยู่ที่การบริการที่ได้มาตรฐานในระดับสากล เน้นความความปลอดภัย อุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์ ให้ความใส่ใจทั้งพนักงาน พันธมิตร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้การขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่งสินค้าถึงเป้าหมายตามกำหนด ภายใต้ต้นทุนที่ต่ำลง

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า บริษัทและพันธมิตรมีการตกลงร่วมกันที่จะขนส่งสินค้าให้กับลูกค้าตรงตามเวลา ซึ่งการขนส่งจะต้องไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ตามเป้าหมาย “อุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์” ขณะเดียวกัน ก็มีแผนที่จะลดต้นทุนการขนส่งลงอีกด้วยท เพราะปัจจุบันต้นทุนการขนส่งของไทยสูงมาก หากเทียบกับประเทศอื่น

ต้นทุนค่าขนส่งจะลดลงได้อีกมาก หากได้รับความร่วมมือจากรัฐบาล ด้วยการลงทุนขยายเส้นทางขนส่งในระบบรางและทางน้ำเช่นเดียวกับประเทศอื่น ที่ให้ความสำคัญกับการขนส่งทางรางมากกว่ารถยนต์ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีจุดอ่อนในเรื่องต้นทุนค่าขนส่งที่สูงถึง 16-17% ขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้วมีต้นทุนค่าขนส่งเพียง 6-7% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เอสซีจีก็พยายามจะลดต้นทุนการขนส่งด้วยตัวเอง โดยการลงทุนก่อสร้างโกดังให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั้งในกรุงเทพฯ ภาคกลาง เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก เพื่อใช้เป็นจุดขนถ่ายสินค้า และใช้การบริหารจัดการภายในองค์กรมาช่วยให้การขนส่งสินค้าตรงเวลา โดยรถที่มาส่งสินค้าจะไม่ต้องจอดรอ สามารถนำสินค้าลงได้ทันที และยังสามารถนำสินค้าประเภทอื่นขึ้นรถเพื่อนำไปส่งในเที่ยวกลับด้วย เพื่อไม่ต้องตีรถเปล่ากลับ

นายกานต์กล่าวอีกว่า บริการการการขนส่งของเอสซีจี ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศ และ 10 ประเทศ ที่เป็นสมาชิก AEC เท่านั้น เช่น พม่า เวียดนาม กัมพูชา แต่เอสซีจี ยังเริ่มให้บริการทางตอนใต้ของประเทศจีนด้วย ทั้งเพื่อให้การเชื่อมต่อการขนส่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งชึ้น

การลงทุนเรื่องขนส่งนั้น เอสซีจี จะเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศนั้น ๆ หรือ อาจจะซื้อกิจการขึ้นอยู่กับโอกาส ซึ่งล่าสุดได้เข้าซื้อกิจการขนส่งที่มีเครือข่ายที่เข้มแข็งในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งการซื้อครั้งนี้ เอสซีจี ได้ทั้งพนักงาน รถขนส่งและลูกค้า

ด้านนายนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ต้องการยกระดับความสามารถของพนักงานขับรถ โดยการเปิดอบรมให้พนักงานขับรถไปแล้วกว่า 10,000 คน และในปีนี้จะเพิ่มเป็น 20,000 คน เพื่อให้พนักงานมีมาตรฐานในการขับรถเช่นเดียวกับระดับสากล ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปิด AEC โดยเฉพาะ

นายนิธิ กล่าวว่า การเปิด AEC มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากผู้ประกอบการไม่เตรียมการรับมือกับเสียเปรียบนักลงทุนต่างชาติ ดังนั้น เอสซีจี โลจิสติกส์ฯจึงต้องการเป็นแกนนำในการสร้างความได้เปรียบให้กับเครือข่ายพันธมิตร ซึ่งเอสซีจี มีจุดแข็งด้านการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้มีความสามารถทัดเทียมต่างประเทศ โดยนำระบบ IT เข้ามาช่วยการบริหารงาน นอกจากนี้ประเทศไทยยังตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลาง ซึ่งจะเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจการขนส่งของเอสซีจีฯ

ปัจจุบัน เอสซีจี ให้บริการลูกค้าในเครือ 85% นอกเครือ 15% มีเป้าหมายภายในเวลา 5 ปี จะเพิ่มสัดส่วนลูกค้านอกเครือเป็น 30% และในระยะยาว 10 ปี ข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 50% โดยมีลูกค้ารายใหญ่หลายราย อาทิ มิตรผล ที่มีส่งออกสินค้าไปขายในต่างประเทศจำนวนมาก
ประกาศร่วมมือกับเครือข่ายผู้ประกอบการขนส่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น