พิจิตร - ป.ป.ช. พร้อมเครือข่ายชมรม STRONGO-แขวงทางหลวงฯ ลงพื้นที่เจาะตรวจถนนทางหลวง ทล.11 หนึ่งในเส้นทางขึ้นล่องสายหลักภาคเหนือก่อนปีใหม่..หลังจ้างเหมางบ 1,413 ล้าน สร้างเสร็จช้าแต่พังเร็ว ใช้งานไม่ถึงปีชำรุด 7,000 ตารางเมตร
ก่อนถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งเป็นห้วงหยุดยาวที่ผู้คนจะพากันเดินทางทั้งกลับภูมิลำเนา-ท่องเที่ยว นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยกลุ่มงานป้องกันการทุจริต และนักสืบสวนคดีทุจริต ร่วมกับ ชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 11 ที่ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางสายหลักขึ้นล่องภาคเหนือ-เชื่อมเหนือ/อีสาน
ซึ่งทางหลวงหมายเลข 11 มีการจ้างเหมาปรับปรุงปรุงก่อสร้าง จากแยกอินทร์บุรี - อ.สากเหล็ก ตอน อ.ทับคล้อ - อ.สากเหล็ก ระยะทาง 30.900 กิโลเมตร มาตรฐานชั้นทาง ชั้นพิเศษ 4 ช่องจราจร ราคาก่อสร้าง 1,413,504,344.98 บาท ส่งมอบงานเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 แต่เปิดใช้งานได้ไม่ทันไรถนนก็เกิดชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อส่งผลให้เกิดอันตรายกับผู้ที่ใช้เส้นทางขึ้น-ล่องสู่ภาคเหนือที่มีการร้องเรียนกันเป็นจำนวนมาก
กระทั่งพบพื้นที่เสียหายชำรุดมาก ถึง 7,000 ตารางเมตร และจากการลงตรวจได้มีการใช้วิธีการสุ่มเจาะ (Core Drilling) ถนนจำนวน 4 จุด ของความหนาของพื้นผิวถนนแอสฟัสติกท์ ซึ่งกำหนดความหน้าชั้นแรก 8 เซนติเมตร และชั้นสอง 5 เซนติเมตร รวมความหนาที่ต้องเจาะทดสอบออกมาเป็น "ก้อน" หรือแกนทรงกระบอก รวม 13 เซนติเมตร ผลพบว่าทั้งสองชั้นผิวทางไม่เชื่อมต่อกันเป็นก้อน เป็นลักษณะแยกก้อนแยกส่วนกัน
ประเด็นดังกล่าวได้รับการชี้แจงว่า ในการเจาะทดสอบอาจไม่จำเป็นต้องเชื่อมเป็นก้อนเดียวกัน สามารถเจาะแยกส่วนกันเพื่อทดสอบได้ ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นได้อาจเกิดจากการทิ้งช่วงในการก่อสร้างในชั้นแรกนานเพื่อเปิดให้ใช้ถนนสัญจรก่อน และเมื่อดำเนินการก่อสร้างในชั้นที่สองและมีการสัญจรเต็มรูปแบบอาจขาดการทำความสะอาดของถนนก่อนก่อสร้างผิวทางชั้นที่สอง จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ถนนเกิดการยุบตัวของผิวถนนที่เกิดขึ้นได้
ทั้งนี้หลังการตรวจสอบ ป.ป.ช.พิจิตร ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับ นายธวัชชัย หมื่นโฮ้ง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงพิจิตร ก็ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างซึ่งอยู่ในประกันสัญญาเร่งเข้าซ่อมแซมถนนจากช่วง อ.วังทรายพูน - อ.ทับคล้อ ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้วกว่า 5,000 ตารางเมตร ยังคงเหลือเนื้องานอีกประมาณ 10%ที่จะต้องซ่อมถนนให้แล้วเสร็จ
แต่ด้วยช่วงใกล้ปีใหม่รถเริ่มมากขึ้นจึงจำเป็นต้องสั่งให้หยุดการทำงานในช่วง 10 วันเพื่อคืนพื้นผิวการจราจรให้กับผู้ใช้เส้นทางและจะให้เริ่มงานอีกครั้งหลังวันที่ 7 ม.ค. 69 เพื่อซ่อมแซมถนนให้แล้วเสร็จ


