อุดรธานี - “ฆาตกรโหดฆ่าหมา” ตายแล้วอย่างน้อย 5 ตัว เจ้าของโร่แจ้งความ สภ.ย่อยห้วยหลวงเอาคนชั่วมาลงโทษให้ได้ พบซากสุนัขถูกนำมาทิ้งในบริเวณเดียวกัน ชาวบ้านผวาพร้อมจัดเวรยามเฝ้าหาตัวผู้ก่อเหตุ หวั่นลุกลามก่อเหตุซ้ำอีก
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านปากดง หมู่ 1 ตำบลนิคมสงเคราะห์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ว่าพบสุนัขถูกฆ่าตายหลายตัวในพื้นที่ป่ารกร้างที่เคยเป็นสวนยางพาราปล่อยทิ้งไว้ใกล้รอยต่อระหว่างหมู่บ้านปากดง บ้านใหม่ และบ้านหัวคู ซึ่งรวมแล้วพบซากสุนัขถึง 5 ตัว สร้างความหวาดผวาและสะเทือนใจแก่คนรักสัตว์อย่างหนัก
ชาวบ้านร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าเป็นการกระทำของผู้ไม่หวังดีที่มีพฤติกรรมเหี้ยมโหดผิดมนุษย์ และเกรงว่าหากไม่หยุดยั้งอาจมีเหตุซ้ำหรือรุนแรงมากขึ้น
ต่อมา นายสุมนชาติ แสงปัญญา ปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอเมือง อบต.นิคมสงเคราะห์ และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่รับแจ้ง โดยพบว่าเป็นสวนยางเก่าขนาดกว่า 70 ไร่ พบซากสุนัข 2 ตัวในกระสอบปุ๋ย สภาพเริ่มส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง คาดว่าอาจถูกวางยาเบื่อก่อนถูกนำมาใส่กระสอบและทิ้งไว้ หนึ่งในซากสุนัขนั้นมีเจ้าของ 1 รายมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ อีกตัวไม่มีเจ้าของมาแสดงสิทธิ
นายพจณ์ บัวโสภา อายุ 42 ปี เจ้าของสุนัขชื่อ “สิงห์เหนือ” เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เจ้าสิงห์เหนือเป็นสุนัขเพศผู้ อายุ 2 ปี สีแดงลายขาว ตนไปรับมาจากจังหวัดเชียงรายและเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็ก ทำหน้าที่เป็นเหมือน “พนักงานต้อนรับ” ของร้านกาแฟ ชอบเล่นกับลูกค้า และเป็นที่รักของคนในหมู่บ้าน
สิงห์เหนือหายไปตั้งแต่คืนวันที่ 13 พฤศจิกายน ตามหาแทบทุกวันกระทั่งวันที่ 23 พฤศจิกายนพบซากสุนัขตาย 3 ตัวในป่ารกร้างใกล้บ้านชำแหละไก่ แต่ยังไม่พบสิงห์เหนือ จนวันที่ 24 พฤศจิกายน จึงพบเจ้าสิงห์เหนือถูกยัดกระสอบนำมาทิ้งใกล้จุดเดิม และยังมีสุนัขอีก 1 ตัวตายห่างออกไปราว 10 เมตร รวมแล้วพบสุนัขถูกฆ่า 5 ตัวภายในพื้นที่เดียวกัน
“ผมรักสิงห์เหนือเหมือนลูก เห็นสภาพแล้วจุกอก หัวใจสลาย ไม่คิดว่าจะถูกทำร้ายแบบนี้” นายพจณ์กล่าว พร้อมยืนยันว่าไม่กล่าวหาใคร แต่ติดใจที่หมู่บ้านมีสุนัขตายผิดปกติหลายครั้ง และเชื่อว่าคนก่อเหตุน่าจะเป็นคนเดียวกัน จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ย่อยห้วยหลวงให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดี
ขณะเดียวกัน เจ้าของบ้านชำแหละไก่ที่ถูกพาดพิงได้ออกมาชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ว่า สุนัขที่อยู่ในกระสอบนั้นพบนอนตายหน้าบ้าน จึงให้ลูกชายนำไปทิ้งตามปกติ ไม่ทราบสาเหตุการตาย และระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวมีสุนัขจรจัดจำนวนมาก มักถูกนำมาทิ้งอยู่เสมอ
ด้านนายสุมนชาติ ปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า หลังตรวจสอบพบสุนัขตาย 5 ตัวจริง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าถูกฆ่าด้วยวิธีใด หน่วยงานท้องถิ่นและผู้นำชุมชนจึงเตรียมจัดเวรยาม และสืบข้อมูลเชิงลึกเพื่อติดตามผู้ก่อเหตุ เนื่องจากขณะนี้มีเจ้าของหลายรายเข้าแจ้งความแล้ว ย้ำว่าการฆ่าสัตว์หรือทารุณกรรมสัตว์มีความผิดตาม พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ พ.ศ. 2557 ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่การทิ้งสัตว์โดยไร้เหตุผลก็มีโทษปรับสูงสุด 40,000 บาทเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ชาวบ้านในพื้นที่หวั่นว่าหากไม่สามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้อาจมีสุนัขถูกฆ่าเพิ่ม หรือรุนแรงจนลุกลามเป็นภัยต่อคนในอนาคต จึงเร่งขอให้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามจับกุมตัวฆาตกรใจเหี้ยมรายนี้โดยเร็วที่สุด


