xs
xsm
sm
md
lg

"กรีนบัส"เปิดตัวทางการรถโดยสารไฟฟ้ารายแรกภาคเหนือ นำร่อง12คัน เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย และเชียงใหม่-พะเยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่- “กรีนบัส” ทุ่ม 100 ล้านบาท เปิดตัวทางการรถโดยสารไฟฟ้ารายแรกในภาคเหนือ นำร่อง 12 คัน พร้อมสถานีชาร์จ ให้บริการเส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย และเชียงใหม่-พะเยา จุดประกายเริ่มต้นก้าวสู่ระบบขนส่งสาธารณะพลังงานสะอาด ตั้งเป้าหมาย 5 ปี เปลี่ยนจากรถดีเซลเป็นไฟฟ้าทั้งหมดครอบคลุมทุกเส้นทางภาคเหนือ


วันนี้ (28 พ.ย. 68) ที่บริเวณลานจอดและสถานีชาร์จรถไฟฟ้า บริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดตัวรถโดยสารไฟฟ้า “EV Greenbus” จำนวน 12 คัน พร้อมสถานีชาร์จรถไฟฟ้า “Fair Super Charge” ของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทางเส้นทางหลังครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในชื่อ “กรีนบัส” และเป็นบริษัทย่อยของบริษัท กรีนแคปปิตอล จำกัด โดยมีนายกฤษฏิภาชย์ ทองคำคูณ ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรีนแคปปิตอล จำกัด พร้อมด้วยนายมานพ พุทธวงค์ ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ และนายกอบกิจ อิสรชีววัฒน์ ประธานหอการค้าเชียงใหม่ รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจจำนวนมากเข้าร่วมงานและทดลองการใช้บริการรถโดยสารไฟฟ้าของบริษัทฯ ซึ่งนับเป็นรายแรกของภาคเหนือที่ให้บริการ


ทั้งนี้นายกฤษฏิภาชย์ ทองคำคูณ ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรีนแคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ใช้เงินลงทุนในครั้งนี้ทั้งสิ้นประมาณ 100 ล้านบาท สำหรับรถโดยสารไฟฟ้า จำนวน 12 คัน เพื่อให้บริการในเส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย และเส้นทางเชียงใหม่-พะเยา เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ลดมลพิษทางอากาศ PM 2.5 พร้อมทั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า “Fair Super Charge” เพื่อรองรับการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้าจากทุกภาคส่วนในอนาคต ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของระบบขนส่งสาธารณะในจังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นศูนย์กลางด้านพลังงานสะอาดของภาคเหนือและเป็นก้าวสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่สู่อนาคตแห่งความยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางบริษัทฯ วางแผนที่จะดำเนินการแล้วตั้งแต่ช่วงก่อนที่จะเกิดสถานการณ์โควิด-19 แต่ต้องหยุดชะงักไป จนกระทั่งสามารถดำเนินการได้ในปัจจุบัน


สำหรับรถโดยสารไฟฟ้า จำนวน 12 คัน ที่นำมาให้บริการนั้น เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2568 ที่ผ่านมา เบื้องต้นได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้โดยสารที่ใช้บริการ คาดว่าจะสามารถให้บริการรวม 3,066,864 กิโลเมตรต่อปี ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำมันดีเซลได้กว่า 1,076,093 ลิตรต่อปี เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายจากเดิมได้มากถึงร้อยละ 50 พร้อมทั้งลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 960 ตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 96,000 ต้นต่อปี อีกทั้งภายในห้องโดยสารยังมีระบบกรองอากาศที่จะช่วยลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอากาศ เป็นการลดปัญหาสุขภาพให้แก่ผู้โดยสารด้วย


โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีรถโดยสารที่ให้บริการทั้งสิ้นประมาณ 100 คัน โดยร้อยละ 80 เป็นรถโดยสารที่ให้บริการเส้นทางในภาคเหนือ ซึ่งบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนรถโดยสารที่ให้บริการเส้นทางในภาคเหนือจากรถดีเซลเป็นรถไฟฟ้าให้หมดภายใน 5 ปี ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน และเป็นต้นแบบ ของระบบขนส่งสีเขียวที่เติบโตไปพร้อมกับชุมชนอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิด ESG – Environment, Social, and Governance ที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการบริหารจัดการที่โปร่งใส










กำลังโหลดความคิดเห็น