xs
xsm
sm
md
lg

วิบากกรรมชาวนาปัญหารุม เร่งเกี่ยวข้าวหนีฝนหลงฤดู ต้นทุนสูงขายไม่ได้ราคา ขาดทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาฬสินธุ์ - ผลกระทบจากความกดอากาศสูงปกคลุมภาคอีสาน มีฝนตกกระจายเป็นบริเวณกว้าง สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวนาที่นำข้าวเปลือกไปผึ่งแดดเพื่อชะลอการขายได้รับความเสียหาย จากราคาขายตกต่ำ ซ้ำค่ารถเกี่ยวแพง ยังต้องเจอกับฝนหลงฤดู เสี่ยงถูกน้ำท่วม เมล็ดข้าวอับชื้น เกิดเชื้อรา เมล็ดข้าวงอก คุณภาพข้าวเสียหายซ้ำอีก


ล่าสุดจากการติดตามบรรยากาศการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีของชาวนาในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ช่วงนี้พบว่ากำลังเร่งเก็บเกี่ยวกันเต็มพื้นที่ โดยการจ้างรถเกี่ยวในอัตราไร่ละ 800 บาท เก็บเกี่ยวท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาเป็นระยะ เป็นอุปสรรคสำคัญในการเก็บเกี่ยวข้าวในปีนี้ แต่ก็เป็นเรื่องของธรรมชาติที่หลบเลี่ยงไม่ได้




นายสุดใจ ภูดีแก้ว อายุ 85 ปี ชาวนาบ้านปลาเค้าน้อย หมู่ 6 ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เล่าว่า ตลอดชีวิตที่ผ่านมามีปีนี้เป็นปีแรกที่มีฝนหลงฤดูตกลงมาในช่วงเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ทั้งๆ ที่น่าจะเข้าสู่ฤดูหนาว แต่กลับมีฝนตกลงมา สร้างความเสียหายแก่เมล็ดข้าวที่กำลังได้อายุเก็บเกี่ยว รวมทั้งที่ยังไม่เก็บเกี่ยวและเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว ทั้งนี้ ได้ยินข่าวว่าหลายจังหวัดฝนตกหนัก ท่วมทั้งต้นข้าวที่ยังไม่เก็บเกี่ยว และเอ่อขังลานตากข้าวของชาวนา ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก จากใจหัวอกชาวนาด้วยกัน ทำให้รู้สึกเศร้าใจไปกับเพื่อนชาวนาที่ประสบปัญหาในขณะนี้

ยังมีชาวนาอีกจำนวนมากที่กำลังผึ่งเมล็ดข้าวเปลือกไล่ความชื้นเพื่อชะลอการขาย กลับต้องมาเจอกับฝนหลงฤดู ขนย้ายข้าวหนีไม่ทัน ก็ต้องป้องกันโดยหาผ้ายางมาคลุมไว้ ส่วนใครที่มีแรงงานในครัวเรือนหลายคนก็ช่วยกันขนย้ายข้าวหนีฝนได้ทัน หากขนย้ายหนีไม่ทัน เมล็ดข้าวก็เสียหาย เมล็ดข้าวเป็นสีดำ เกิดเชื้อราเพราะอับชื้น หรือเมล็ดที่แห้งแล้วเกิดการงอกได้ กลายเป็นเมล็ดข้าวด้อยคุณภาพ ไม่มีใครรับซื้อ




“ความเดือดร้อนที่ชาวนาประสบในช่วงนี้ เป็นปัญหาที่รุมเร้ารอบด้าน เริ่มจากต้นทุนการผลิตสูง ภัยธรรมชาติ และค่าจ้างรถเกี่ยวข้าวแพงถึงไร่ละ 800 บาท ขณะที่ราคาขายข้าวเปลือกยังตกต่ำ ตรึงราคาอยู่ที่ กก.ละ 6-7 บาท ซึ่งทำให้ประสบปัญหาขายข้าวขาดทุน” นายสุดใจกล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น