xs
xsm
sm
md
lg

ชี้เหมืองแรร์เอิร์ทต้นน้ำกกเขตว้าใช้เทคโนโลยีเก่า ก่อมลพิษข้ามแดนรุนแรง ท่องเที่ยวทั้งลุ่มน้ำวูบ 90%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐฉาน เมียนมา - ชี้เหมืองแรร์เอิร์ทต้นน้ำกก รัฐฉาน เขตอิทธิพลว้าแดง ใช้เทคโนโลยีเก่า แม้แต่จีนยังเลิกใช้ ก่อเกิดมลพิษข้ามแดนรุนแรง กระทบธุรกิจตลอดลุ่มน้ำทรุด คนเที่ยว “ปางช้างบ้านรวมมิตร” นั่งเรือล่องน้ำกก วูบ 90%

การเปิดเหมืองแร่ทองคำและแรร์เอิร์ท ต้นแม่น้ำกกในเขตเมืองยอน เขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) และ จ.เมืองสาด รัฐฉาน เมียนมา ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นมา จนส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง ที่ไหลผ่านเชียงใหม่-เชียงรายนั้น ล่าสุดเหมืองเหล่านี้ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้สนใจการต่อต้าน-เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากไทยที่อยู่ท้ายน้ำ กลับเอาผ้าใบสีดำคลุมบริเวณส่วนสำคัญของเหมืองเพื่ออำพรางดาวเทียม

นายประณอม เชิมชัยภูมิ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมปัจจุบันเป็นกรรมการสมัชชาเชียงรายล้านนาแห่งความสุข เปิดเผยว่าปัญหามลพิษในแม่น้ำที่ไหลผ่านไทยดังกล่าวมีต้นตออยู่ในฝั่งเมียนมา ที่ทำเหมืองแร่ต่างๆ ริมแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ซึ่งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของสหประชาชาติอย่างชัดเจน เพราะเมียนมาได้ลงนามในภาคีความร่วมมือดังกล่าว แต่กลับปล่อยให้มีเหมืองแร่ทองคำ แมงกานีส แรร์เอิร์ท ฯลฯ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ เหมืองแรร์เอิร์ทในรัฐฉานใช้วิธีการสกัดให้ได้แร่หายาก 17-18 ชนิด ด้วยวิธีการดั้งเดิมซึ่งแม้แต่จีนก็เลิกใช้เทคโนโลยีนี้แล้ว โดยจะมีการฉีดสารเคมีเข้าไปในภูเขาเพื่อละลายแร่หายากออกมาซึ่งจะทำลายสิ่งแวดล้อมในบริเวณเหมืองอย่างมาก

ดังนั้นตนจึงขอให้รัฐบาลเร่งเจรจากับประเทศเมียนมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว ไม่เช่นนั้นในระยะยาวคนไทยอาจต้องประสบกับสารพิษเช่นเดียวกับที่ชาวญี่ปุ่นเคยเจอกับโรคมินามาตะ หรือแม้จะมีการแก้ไขปัญหาได้ตนก็เชื่อว่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูอย่างน้อย 10 ปีแม่น้ำต่างๆ จึงจะกลับสู่ภาวะปกติ ขณะที่ในปัจจุบันผลกระทบได้เกิดขึ้นแล้วกับวิถีชีวิตโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่เดือดร้อนอย่างหนัก

ด้านนายหล้า พุ่มไพรระไหวชื่น เครือข่ายสิทธิมนุษยชนเชียงราย กล่าวว่า เดิมแม่น้ำกกเป็นแม่น้ำสายการท่องเที่ยว แต่หลังเกิดปัญหาปนเปื้อนมลพิษ-สารหนูเกินค่ามาตรฐาน ก็ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าสัมผัสกับน้ำ การท่องเที่ยวก็ซบเซาลงทั้งการนั่งเรือท่องเที่ยว ร้านค้าริมฝั่ง ปางช้าง ฯลฯ

“ปางช้างบ้านรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ต้องกั้นห้วยให้ช้างกินแทนน้ำในแม่น้ำกก ส่วนชาวบ้านก็ต้องหาแหล่งน้ำใหม่มาใช้ ในภาพรวมแล้วความคึกคักของการท่องเที่ยวได้ลดลงจากเดิม 90% เหลือเพียง 10%”

รายงานข่าวแจ้งว่า มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ และหน่วยงานในประเทศไทยได้ตรวจสอบที่ตั้งเหมืองแร่ต่างๆ ในรัฐฉานที่จะมีผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง หลังพบน้ำสายขุ่นผิดปกติเมื่อ ม.ค. 2567 ครั้งนั้นฝ่ายปกครอง อ.แม่สาย ระบุว่ามีเหมืองแร่ 4 แห่ง สองแห่งแรกเป็นเหมืองแมงกานีสและทองคำ ตั้งอยู่ที่บ้านแม่โจ๊กและบ้านนายาว จ.เมืองสาด ทางทิศตะวันตกของท่าขี้เหล็ก มีการนำน้ำจากแม่น้ำสายขึ้นไปใช้ในกิจการเหมืองแร่ ส่วนเหมืองแร่อีก 2 แห่งเป็นเหมืองแมงกานีสและสังกะสี ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำปุงใหม่และน้ำพุร้อนใหม่ จ.เมืองสาด ติดกับลำน้ำสาขาของแม่น้ำสายคือน้ำปุงและน้ำพุ มีการใช้น้ำลำน้ำสาขาดังกล่าวเช่นกัน (อยู่ในเขตปกครองพิเศษที่ 2-ว้า)

ขณะที่ภาพถ่ายดาวเทียมยังพบเหมืองแรร์เอิร์ทอีกอย่างน้อย 2 แห่ง หนึ่งนั้นตั้งอยู่ระหว่างเมืองยอน-จ.เมืองสาด ห่างจากชายแดนไทยด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ประมาณ 25 กิโลเมตร และห่างจากแม่น้ำกกประมาณ 3.6 กิโลเมตร ส่วนแห่งที่ 2 ตั้งอยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำกก ห่างจากแม่น้ำประมาณ 2.6 กิโลเมตร อยู่ในเขตติดต่อระหว่างเขตปกครองของรัฐบาลทหารเมียนมาและเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) นอกจากนี้ในรัฐฉานตอนเหนือติดกับประเทศจีนยังมีเหมืองแรร์เอิร์ทอีกเป็นจำนวนมากด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น