พระนครศรีอยุธยา - เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานระดมกำลังทำงานแข่งเวลา หลังผนังประตูระบายน้ำคลองตานึ่ง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ทรุดตัวพังทลายจากแรงดันน้ำในแม่น้ำน้อย มวลน้ำทะลักเข้าทุ่งผักไผ่–ผักไห่ ล่าสุดนำเสาเข็มยูคาลิปตัส–ถุงบิ๊กแบ็ก–หินกดแนวกั้นน้ำ หวังอุดรอยรั่วให้เสร็จภายในคืนนี้
เมื่อเวลา 19.00 น. วานนี้ ( 8 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าภารกิจเร่งกู้สถานการณ์หลังเกิดเหตุผนังประตูระบายน้ำคลองตานึ่ง หมู่ 4 ตำบลทางช้าง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้การดูแลของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ ทรุดตัวพังทลายเมื่อคืนวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จากแรงดันน้ำมหาศาลในแม่น้ำน้อย จนทำให้น้ำทะลักไหลข้ามฝั่งเข้าท่วมพื้นที่ทุ่งผักไผ่ ทุ่งป่าโมก และชุมชนกุฎี อำเภอผักไห่
ตลอดทั้งคืนจนถึงวันนี้ เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานระดมกำลังเข้าดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีรถแม็คโครทำงานตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมนำต้นยูคาลิปตัสกว่า 100 ต้นมาปักเป็นแนวเสาเข็มกั้นน้ำ ก่อนจะนำถุงบิ๊กแบ็กบรรจุหินหย่อนลงในร่องระหว่างแนวเข็ม เพื่อชะลอและหยุดการไหลของน้ำ
นายทรงพล สุขสมบูรณ์ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขตบางบาล ซึ่งอยู่ในพื้นที่ช่วยงานตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ขณะนี้การทำงานมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยทางกรมชลประทานได้นำถุงบิ๊กแบ็กและหินเข้ามาเสริมแนวป้องกันเพิ่มเติม หลังจากเมื่อวานได้กดเสาเข็มยูคาลิปตัสลงแล้ว วันนี้ได้ดำเนินการเติมแนวเข็มเพิ่มและบรรจุหินลงถุงเพื่อหย่อนลงในร่องระหว่างเข็ม
“ตอนนี้ถือว่าคืบหน้าไปมาก แม้ยังไม่สามารถปิดรอยรั่วได้ 100% แต่ช่วยลดแรงดันน้ำได้ดีขึ้นมาก คืนนี้ยังคงทำงานต่อเนื่อง และพรุ่งนี้จะนำแกรเบียนเข้ามาเสริมแนวป้องกันถาวร” นายทรงพลกล่าว
จากการสำรวจพบว่า ระดับน้ำในพื้นที่ทุ่งและชุมชนใกล้เคียง เช่น บ้านกุฎี และพื้นที่ทุ่งผักไห่ มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่สถานการณ์ยังอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ โดยในช่วงบ่ายที่ผ่านมา พบการกัดเซาะถนนบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุบางส่วน แต่ได้มีการนำหินเข้าซ่อมแซมแล้วเสร็จ เพื่อป้องกันการทรุดตัวซ้ำ
เจ้าหน้าที่คาดว่าหากสามารถวางแนวบิ๊กแบ็กได้ครบตามแผนในคืนนี้ สถานการณ์น้ำจะคลี่คลายลงและสามารถควบคุมการรั่วซึมของน้ำได้ในระดับหนึ่ง ก่อนดำเนินการวางแกรเบียนเสริมแนวถาวรในวันถัดไป


