ลำปาง - ผอ.สพป.ลำปาง เขต 1 เผยรู้เรื่องครูผู้ช่วย (ชาย) ใช้ฟุตเหล็กฟาดหน้าเด็ก 7 ขวบฐานหยิบขนมครูไปกินแล้ว ชี้ผิดระเบียบ-เกินกว่าเหตุ เตรียมตั้งกรรมการสอบ-สั่งย้ายไว้ก่อน ลดความตึงเครียด
ความคืบหน้ากรณีน้องพ๊อต (สำเนียงภาษาเมืองลำปาง) หรือน้องพอร์ซ เด็กชายวัย 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนบ้านแม่จาง ต.นาสัก อ.แม่เมาะ ถูกครูประจำชั้น ซึ่งเป็นครูผู้ช่วยชายลงโทษ ใช้ฟุตเหล็กตีเข้าที่ใบหน้าของเด็กทั้งสองข้าง ตบปาก หยิกคอ และให้ไปล้างห้องน้ำ หลังเด็กหยิบขนมมาร์ซเมลโลบนโต๊ะไปกินเพราะแม่ไม่มีเงินให้ไปโรงเรียน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น
วันนี้ (4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวพยายามโทร.ติดต่อรักษาการ ผอ.ร.ร.แต่ไม่สามารถติดต่อได้ แต่ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่ารักษาการ ผอ.ได้ทำรายงานชี้แจงเรื่องดังกล่าวไปยัง สพป.เขต 1 แล้ว โดยระบุว่า
1.สรุปเหตุการณ์ข้อเท็จจริง
สืบเนื่อง วันที่ 2 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00 น นายเอ (นามสมมติ) ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดโรงเรียนแม่จาง ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง มีพฤติการณ์การกระทำการลงโทษ เด็กชายปฏิภาณ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้วิธีการลงโทษนักเรียนไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548
กล่าวคือ ใช้วิธ<การลงโทษ โดยการตีบริเวณฝ่ามือจำนวน 4 ครั้ง รวมถึงตีบริเวณใบหน้า 2-3 ครั้ง จนเป็นสาเหตุให้เด็กนักเรียนรายดังกล่าวได้รับบาดเจ็บและเป็นสาเหตุสร้างความไม่พึงพอใจของผู้ปกครองเด็กนักเรียน ชุมชน เกี่ยวกับพฤติกรรมการลงโทษดังกล่าว
2. โรงเรียนแม่จางได้พิจารณาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาเบื้องต้นตามลำดับ กล่าวคือ 1) เชิญคณะครู นักเรียนที่พบเห็นเหตุการณ์มาสอบถามรายละเอียดข้อมูลข้อเท็จจริง 2) เรียกตัวข้าราชการครูคู่กรณีรายดังกล่าว ให้บันทึกชี้แจงรายงานข้อเท็จจริง 3) ติดต่อประสานผู้ปกครอง เพื่อเข้าพบเจรจาและแก้ไขปัญหาร่วมกับตัวแทนผู้นำชุมชน 4) รายงานเหตุการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1 รับทราบ
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายสยามรัฐ กุลประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1 ได้กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานแล้วว่าครูอาจจะใช้ความรุนแรงกับเด็ก และอาจจะเข้าข่ายทำร้ายร่างกาย ซึ่งเกินกว่าเหตุและผิดระเบียบฯ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1 ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้พิจารณาดำเนินการมอบหมายให้กลุ่มงานกฎหมายและคดีดำเนินการติดตามสอบถามรายละเอียด ตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะได้ให้รอง ผอ.ลงพื้นที่สืบข้อเท็จจริงอีก เพราะขณะนี้ได้มีการแจ้งความด้วย หากสืบได้ข้อเท็จจริงแล้วก็จะตั้งกรรมการสอบสวนต่อไป
ส่วนประเด็นที่ผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้าน ผปค. ไม่ต้องการให้ครูอยู่ในโรงเรียนและสอนที่เดิม เพื่อลดความขัดแย้งในพื้นที่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน สพฐ.อาจจะต้องย้ายครูเข้าไปทำงานที่ สพฐ.เป็นการชั่วคราวก่อน


