xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านยังศรัทธา “หลวงพ่อเมือง” เชื่อถูกใส่ร้ายจนต้องปาราชิก ขณะที่บรรยากาศวัดเงียบเหงา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาฬสินธุ์-บรรยากาศวัดป่ามัชฌิมาวาส สุดเหงา ลานจอดรถว่างเปล่า แทบไม่มีคนเดินทางมาทำบุญ หลังหลวงพ่อเมือง ถูกมติมหาเถรสมาคมให้ปรับอาบัติปาราชิก ด้านศิษย์ยังเชื่อมั่นในความดีหลวงพ่อเมือง เชื่อสนิทใจหลวงพ่อเมืองถูกใส่ร้าย จากเหตุอิจฉาริษยาในคณะสงฆ์

บรรยากาศภายในวัดป่ามัชฌิมาวาสล่าสุด แทบไม่มีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาทำบุญ ต่างจากก่อนหน้านี้
หลังจากพระโพธิญาณมุนี หรือหลวงพ่อเมือง พลวฑฺโฒ เจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมาวาส ซึ่งเป็นเกจิชื่อดังในจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลาสิกขาบทไปแล้วนั้น สร้างความตื่นตระหนกตกใจกับประชาชนและศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก หลายคนช็อกไปตามๆกัน เนื่องจากหลวงพ่อเมืองเป็นพระเถระชื่อดังในพื้นที่ และมีลูกศิษย์เคารพนับถือจำนวนมาก

ล่าสุดวันนี้ ( 13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดป่ามัชฌิมาวาส ต.ดงเมือง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามสถานการณ์ภายหลังจากที่ศาลสงฆ์ชั้นฎีกา มีคำวินิจฉัยยืนคำพิพากษาให้หลวงพ่อเมือง พลวฑฺโฒ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมาวาสแห่งนี้ สิ้นสุดความเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศภายในวัดดูเงียบเหงาผิดปกติ ไม่มีเสียงสวดมนต์หรือทำกิจกรรมทางศาสนาเช่นที่เคยเป็นมา แม้ประตูหลักของวัดจะเปิดอยู่ตามปกติ แต่จำนวนผู้คนที่เข้าออกลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา

ภายในลานวัดสถานที่ฟังธรรมกับหลวงพ่อเมืองแต่ละวัน ขณะนี้มีเพียงพระพุทธรูปเก่าและโต๊ะธรรมาสน์ที่ว่างเปล่า สร้างภาพที่เศร้าใจกับผู้ที่เคยติดตามฟังเทศน์ของท่าน บริเวณรอบๆวัดที่เคยเต็มไปด้วยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของผู้มาร่วมทำบุญ กลับกลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่าเป็นส่วนใหญ่


นายจำลอง ฆารอำไพร ชาวบ้านดงเมือง ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อเมืองมาเป็นเวลานาน กล่าวว่าข่าวที่ออกมาทั้งหมด ส่วนตัวเชื่อว่า เป็นการใส่ร้ายหลวงพ่อเมือง ทำให้ผู้คนเสียศรัทธาไปโดยไม่มีเหตุผล ส่วนตัวผมเชื่อว่าเป็นการอิจฉาริษยาในคณะสงฆ์เอง ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นน่าจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ซับซ้อนกว่าที่ปรากฏ จากข้อมูลที่ออกมาทำให้ท่านเสื่อมเสียนั้นมีเพียงนิดเดียว แต่กลับเอาข่าวเก่าตั้งแต่ปี 2559 มาตีแผ่ใหม่ ผสมผสานข่าวเก่าใหม่เข้าด้วยกัน จนทำให้ดูเหมือนเป็นเหตุการณ์ใหญ่


เมื่อลูกศิษย์ไปถามเรื่องดังกล่าวกับพระที่มีรายชื่อปรากฏในเอกสารที่เป็นข้อกล่าวหา พระเหล่านั้นได้ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด โดยบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นใดๆเลย ทั้งนี้ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ยังศรัทธาหลวงพ่อเมืองเหมือนเดิม และในฐานะลูกศิษย์ของวัดที่ได้ปฏิบัติธรรมเรียนรู้จากท่านมา ยืนยันว่ายังศรัทธาเหมือนเดิม และจะเพิ่มศรัทธามากขึ้นอีกด้วย เพราะเรานับถือท่านมาหลายสิบปีแล้ว ทั้งนี้หลวงพ่อเมืองได้ปรากฏตัวต่อหน้าลูกศิษย์ครั้งสุดท้ายในวันที่ 10 กันยายน 2568 ก่อนจะเดินทางออกจากวัดเพื่อไปศาสนากิจที่กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้นายจำลองยังชี้ให้เห็นถึงผลงานที่เป็นรูปธรรมของหลวงพ่อเมือง โดยเฉพาะพระมหาเจดีย์ วัดป่ามัชฌิมวาสที่สร้างขึ้นด้วยงบประมาณหลายร้อยล้านบาท สิ่งเหล่านี้เป็นหลักฐานทำให้ศรัทธาเราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่สิ่งที่คนทำผิดจะสามารถสร้างได้

ขณะที่นายสยามพัชร ทิพย์สอน ผอ.พศจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าสำนักงาน พศ. เป็นหน่วยงานที่รับสนองงานคณะสงฆ์เท่านั้น เบื้องต้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 เวลา 12.30 น. ที่วัดโสภณพัฒนาราม (ภูปูนในฝัน) ต.มหาไชย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าคณะภาค 9 เป็นประธานการอ่านมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 22/2568 มติที่ 695/2568 เรื่องคำวินิจฉัยชั้นฎีกากรณีพระโพธิญาณมุนี โดยมีรองเจ้าคณะภาค 9 เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เจ้าคณะตำบลลำพาน และโจทก์ เข้าร่วมประชุม


โดยมติมหาเถรสมาคม ให้ปรับพระโพธิญาณมุนี (จำเลย) ต้องอาบัติปาราชิกตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 ทั้งนี้ พศจ.กาฬสินธุ์ เป็นพยานและบันทึกเหตุการณ์และประวัติลงในฐานข้อมูลพระภิกษุของสำนักงาน พศ.

นายสยามพัชร ยังระบุอีกว่าหลวงพ่อเมือง ไม่ได้เดินทางเข้ารับฟังมติเถรสมาคมในวันดังกล่าว และมีรายงานว่าได้ดำเนินการลาสิกขาที่วัดมัชฌิมาวาส ในวันที่ 10 กันยายน 2568 และได้เดินทางออกจากวัดไปแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น