ศูนย์ข่ายนครราชสีมา - ชาวนาโคราชเฮเก้อ! เงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาทยังไม่โอนเข้าบัญชี ขณะที่ ธ.ก.ส.แจ้ง กำลังทยอยโอนให้ปลูกข้าวนาปีล็อตแรก 337 ล้าน ได้รับไม่เกิน 5 ก.ย.นี้ เผยโคราชมีเกษตรกรลงทะเบียนเป็นผู้ปลูกข้าวนาปรังและข้าวนาปีมากสุดในประเทศกว่า 2.4 แสนราย รวมเป็นเงินช่วยเหลือรวมกว่า 2,100 ล้าน
วันนี้ (3 ก.ย. 68) ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขา นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจำนวนมากเดินทางมากดเงินในตู้ ATM เพื่อเบิกเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ หรือ 10,000 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมามีกำหนดการจะโอนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ล็อตแรกจำนวน 38,897 ราย รวมเป็นเงิน 337 ล้านบาท ในวันนี้ (3 กันยายน 2568) เป็นวันแรก ซึ่งพบว่าเกษตรกรหลายรายยังไม่ได้รับเงินโอนเข้าบัญชีทำให้รู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าอยู่ระหว่างทยอยโอนให้ตามเลขที่บ้าน จะทยอยโอนเงินให้เกษตรกรทุกรายในล็อตแรกไม่เกินวันที่ 5 กันยายนนี้
นางสมบูรณ์ ตะเภาทอง อายุ 68 ปี ชาวนา อ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับทราบข่าวว่าทาง ธ.ก.ส.จะโอนเงินช่วยเหลือมาให้ชาวนา จึงได้รีบเดินทางนำบัตร ATM มากดดู แต่ปรากฏว่าเงินยังไม่เข้า ซึ่งตนทำนาปีอยู่ 6 ไร่ จะได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 6,000 บาท วางแผนไว้ว่าจะนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายในครอบครัว ส่วนหนึ่งก็นำไปซื้อปุ๋ย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เงินเลย เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้รอดูอีก 2-3 วันเงินก็จะเข้า ทำให้รู้สึกดีใจขึ้นมาบ้าง ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลทำโครงการแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
ด้าน นายสำราญ สระสันเทียะ ชาวนา อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตนทำทั้งข้าวนาปรังและข้าวนาปี โดยข้าวนาปรัง เงินช่วยเหลือเข้าแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 จำนวน 3 ไร่ เป็นเงินจำนวน 3,000 บาท แต่ข้าวนาปีที่ลงทะเบียนไว้ 6 ไร่ จำนวนเงิน 6,000 บาท เงินยังไม่เข้าเลย ไปถามเจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องรอดูอีก 2-3 วันก่อน ดังนั้น วันนี้จึงได้กดเงินข้าวนาปรังไปใช้ก่อน 3,000 บาท จะนำไปซื้อปุ๋ยและค่าจ้างรถไถนา
หากถามว่าพอหรือไม่สำหรับเงินช่วยเหลือนี้ ตนต้องบอกว่าไม่พออยู่แล้ว เพราะทุกวันนี้ทำนาต้องจ้างทั้งหมด ตั้งแต่ไถนา หว่านข้าว ใส่ปุ๋ย ฉีดยา และเกี่ยวข้าว แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ยังพอช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้บ้าง ทุกวันนี้ตนต้องใช้เวลาว่างจากการทำนามาทำอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อหารายได้เสริมมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงอยากให้รัฐบาลทำโครงการแบบนี้ต่อไปทุกปี เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ชาวนาได้บ้าง
ส่วน นายอ้อน ห้ามไธสง อายุ 82 ปี ชาวนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตนทำนาปีอยู่ 8 ไร่ ได้รับเงินช่วยเหลือแบบนี้ทุกปี ปีละ 8,000 บาท วันนี้ได้นำบัตร ATM มากดดูแล้วปรากฏว่าเงินยังไม่เข้าก็รู้สึกกังวลมาก ไปถามเจ้าหน้าที่บอกว่าให้รอดูในวันที่ 5 กันยายนนี้ก่อน เพราะเงินจะทยอยโอนเข้ามาให้ตามแต่ละพื้นที่ ซึ่งตนวางแผนไว้ว่าถ้าได้เงินจำนวนนี้มาจะนำเงินทั้งหมดไปซื้อปุ๋ยไปหว่านใส่ในนาข้าว รวมทั้งจ่ายค่าไถนา และค่าหว่านข้าวด้วย เพราะตอนนี้ยังไม่มีเงินจึงค้างจ่ายมานานแล้ว ซึ่งค่าใช้จ่ายทำนาเกิน 10,000 บาทแน่นอน เงินส่วนนี้ไม่พอจ่าย แต่ยังดีกว่าไม่ได้เสียเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ จ.นครราชสีมาถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีเกษตรกรลงทะเบียนเป็นผู้ปลูกข้าวนาปรังและข้าวนาปีมากที่สุดในประเทศไทย โดยปีนี้มีผู้ลงทะเบียนกว่า 240,000 ราย คิดเป็นเงินช่วยเหลือไม่ต่ำกว่า 2,100 ล้านบาท