xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาท้อซ้ำ..ราคาดิ่งไม่มีแววฟื้นไม่พอ รอเงินช่วยไร่ละพันผ่าน “ทางรัฐ” วันแรกยังรอเก้ออีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุทัยธานี - ชาวนาสุดท้อ..ราคาข้าวดิ่งแบบโงหัวไม่ขึ้นไม่พอ รอเงินช่วยไร่ละพันผ่าน App ทางรัฐตามมติ ครม.19 สิงหาฯ ยังรอเก้อซ้ำ หลังต้องยืนยันตัวตนแต่ในแอปฯ ไม่มีช่องให้กด เผยอยากให้โอนเงินช่วยแบบเดิมจะดีกว่า หวั่นชาวนาส่วนใหญ่จะเสียสิทธิหากยืนยันตัวตนไม่ผ่าน


บริเวณหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.สาขาหนองฉาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี วันนี้ (1 ก.ย. 68) ยังคงเงียบเหงา ไม่มีเกษตรกรชาวนาเดินทางมาเข้าแถวรอคิวกดเช็กเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท เหมือนทุกรอบที่ผ่านมา

ทั้งที่เงินโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังปี 2568 และโครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี-ส่งเสริมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ ปีการผลิต 2568/69 หรือเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท จะต้องเริ่มโอนเงินให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังทันทีภายใน 3 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เป็นต้นไป

ทว่า มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ข้อ 3 “ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการกำหนดให้เกษตรกรลงทะเบียนการประกอบอาชีพผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เพื่อให้ภาครัฐมีฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน สามารถนำมาใช้ในการติดตามและจัดทำแผนปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืชของเกษตรกรให้เหมาะสมสอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละพื้นที่เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรลดรายจ่ายเพิ่มผลผลิต และมีรายได้เพิ่มขึ้นได้อย่างยั่งยืนต่อไป

นายธเนศ ทินอาน อายุ 39 ปี เกษตรกรชาวนาในพื้นที่อำเภอหนองขาหย่าง เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วคิดว่าการที่จะให้ชาวนาไปลงทะเบียนยืนยันตัวตนรับเงินไร่ละพันผ่าน App ทางรัฐ เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก อย่างตนทำนารวมแล้วกว่า 100 ไร่ ต้นทุนต่อไร่ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 บาท แต่ราคาขายข้าวตอนนี้อยู่ที่แค่ตันละ 5,000 กว่าบาท ซึ่งอ้างอิงจากราคาล่าสุดที่ชาวนาแถวบ้านที่เพิ่งเกี่ยวข้าวไปขายมา

“ตอนนี้ทำนาปลูกข้าวแทบจะไม่คุ้มทุน แต่ก็ไม่รู้จะไปทำอะไร เพราะเราประกอบอาชีพทำนากันมา ตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว ส่วนการได้รับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาทนี้ เรียกว่าได้เป็นการช่วยบรรเทา ความเดือดร้อนให้กับชาวนาได้นิดหน่อย”

ซึ่งอยากให้รัฐบาลช่วยเพิ่มราคารับซื้อข้าวขึ้นมาให้อยู่ที่ตันละ 8,000-9,000 บาท แบบนี้ชาวนาถึงจะพอได้เหลือเงินกันบ้าง เพราะตอนนี้ต้นทุนสูงมาก ส่วนเงินช่วยเหลือเยียวยาไร่ละพันก็ยังไม่มีเงินเข้ามา ก็คงต้องคอยติดตามต่อไปว่า จะให้ชาวนานั้นดำเนินการไปในขั้นตอนใด อย่าง App ทางรัฐนั้น เมื่อวานนี้ได้ทดลองเข้าไปเพื่อทำการยืนยันตัวตน ก็พบว่าไม่ได้มีช่องทางที่จะให้ยืนยันตัวตนของเกษตรกรชาวนาแต่อย่างใด มีแต่เพียงของกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยเท่านั้น

“การลงทะเบียนยืนยันตัวตนผ่าน Application ทางรัฐ น่าจะยุ่งยากและลำบากกับกลุ่มเกษตรกรที่เป็นผู้สูงอายุ ส่วนตัวแล้วคิดว่าการโอนเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาในรูปแบบเดิมดีกว่า เพราะเกษตรกรชาวนาส่วนใหญ่นั้นไม่ค่อยเก่งในเรื่องการใช้ Application ซึ่งอาจจะทำให้พวกเขาเสียสิทธิได้”




กำลังโหลดความคิดเห็น