พิษณุโลก - มทร.ล้านน า(เกษตรบ้านกร่าง) ค้นเจอแล้วชื่อ “เกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว” โยง “หลวงพ่ออลงกต” เป็น นศ.รุ่น 15 แต่เรียนไม่จบ มีเกรดแค่ 5 เทอม ขาดเกรดภาคเรียนสุดท้าย แต่ฟันธงไม่ได้เป็นคนเดียวกันกับอดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุหรือไม่
วันนี้ (25 ส.ค. 68) นายบุญฤทธิ์ สโมสร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก เปิดเผยถึงชื่อ “เกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว” ที่เชื่อมโยงกับ “หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ” ซึ่งกำลังถูกคุ้ยข้อมูลหลักฐานทั้งเรื่องเงินบริจาค-ที่มาตัวตน
ผอ.สำนักบริหาร มทร.ล้านนา พิษณุโลก บอกว่า ทางมหาวิทยาลัยพร้อมให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือแก่ทุกภาคส่วนที่ต้องการตรวจสอบ เพื่อให้ประชาชนและทุกคนได้รับข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ตนตอนนี้เป็นคณะผู้บริหาร ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานบริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาพิษณุโลก ซึ่งของเรามีทั้งหมด 6 พื้นที่ พิษณุโลกก็เป็น 1 ใน 6 ส่วนท่านอธิการบดีจะประจำอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่
แต่เดิมคนพิษณุโลกจะรู้จักที่นี่ในชื่อเกษตรบ้านกร่าง (ช่วงปีการศึกษา พ.ศ. 2521-2523) ก่อนจะยกฐานะเป็น มทร.ล้านนา พิษณุโลก ตนเองมาอยู่ที่นี่เมื่อปี พ.ศ. 2538 ซึ่ง ณ ตอนนั้นก็เป็นมหาวิทยาลัยแล้ว ข้อมูลต่างๆ ในสมัยนั้น ก็ต้องไปค้นหาดูว่ายังมีอะไรที่เป็นข้อมูลอยู่บ้าง ส่วนคำถามที่หลายคนสงสัยว่า พระอลงกตเคยมาศึกษาอยู่ที่นี่จริงไหม ณ ตอนนี้ที่ตรวจสอบคือไม่มีชื่อ “อลงกต” ในฐานข้อมูลนิสิต นักศึกษา
ส่วนที่มีกระแสออกมาว่าชื่อนายเกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว ถ้าชื่อนี้มีข้อมูลในทะเบียนนิสิต ซึ่งมีการลงทะเบียนเรียนในระดับ ปวช. 2521-2523 รุ่นที่ 15 ที่จะใช้เวลาเรียน 3 ปี ซึ่งสมัยนั้นมีการลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก มีประชาชนจากทั่วทุกภาคมาเรียนที่นี่ จากข้อมูลที่มี เท่าที่ทำการสืบค้นได้ ปกติแล้วเรียน 3 ปีจะมีด้วยกันทั้งหมด 6 เทอม แต่ของนายเกรียงไกร ในเทอมสุดท้ายไม่มีเกรดเพราะไม่มีการลงทะเบียนเรียน ถ้าไม่มีเกรดแบบนี้ตามหลักสูตรแล้วก็จะถือว่าเรียนไม่จบหลักสูตร เพราะว่ามีเกรดแค่เพียง 5 เทอมเท่านั้น แต่เทอมที่ 6 ไม่มี เอาง่ายๆ ก็คือถ้าเป็นลักษณะนี้คือถือว่าเรียนไม่จบหลักสูตร ปวช.จากทางเกษตรบ้านกร่างในสมัยนั้น
ข้อมูลจากเพื่อนที่เรียนด้วยกันก็พบว่านายเกรียงไกรหายไปเลย ไม่มีการติดต่อกัน ส่วนระยะหลังๆ ที่เห็นว่าพระอลงกตได้มาทำบุญร่วมกับทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เนื่องจากปี 2540 ช่วงนั้นโรคเอดส์แพร่ระบาด ทางมหาวิทยาลัยเองต้องการให้นักศึกษามีจิตสำนึกในการดูแลสังคม หรืออยู่ร่วมกับผู้ป่วยโรคเอดส์ จึงติดต่อหาวิทยากรที่จะมาบรรยายเกี่ยวกับโรคนี้ ตามโครงการธรรมรักษ์ กับหัวใจสีขาว
เมื่อมีข้อมูลว่าทางวัดพระบาทน้ำพุมีข้อมูลเกี่ยวกับโรคเอดส์ และทางวัดได้ดูแลผู้ป่วยเอดส์ ทางมหาวิทยาลัยจึงมีการประสานไปยังวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งตอนนั้นทางวัดแจ้งว่าเจ้าอาวาสขณะนั้นดีใจมาก และได้มีการตอบรับมาเป็นวิทยากรให้
ในการมาบรรยายปีแรก ทางมหาวิทยาลัยได้ใช้จ่ายเงินเป็นค่าวิทยากรเพียงหลักร้อย ท่านก็ยินดีมาบรรยายให้ หลังจากนั้นกิจกรรมก็จัดต่อเนื่องมาเป็นทุกปี แต่มาแต่ละครั้งท่านเองก็ไม่เคยบอกว่าเคยเรียนหรือศึกษาที่นี่ ไม่เคยพูดถึงว่าเรียนจบที่นี่ อาจารย์เองก็ไม่ทราบ เพื่อนร่วมรุ่นเองก็ไม่ทราบ
“โครงการธรรมรักษ์ กับหัวใจสีขาว ยังคงจัดต่อเนื่องเรื่อยมา ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี โดยจะมีการออกรับบิณฑบาต โปรดญาติโยมตามตลาดสดในเขตอำเภอเมืองพิษณุโลกและมีการบรรยายธรรมะ กิจกรรมเกี่ยวกับธรรมะที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก ครั้งล่าสุดคือครั้งที่ 28 จัดเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งมาแต่ละครั้งพระอลงกตก็ปฏิบัติกิจของสงฆ์ตามปกติ”
ถามว่ารู้สึกอย่างไรหลังจากมีข่าวเกี่ยวกับเจ้าคุณอลงกต และอนาคตจะมีกิจกรรมจัดร่วมกับวัดพระบาทน้ำพุต่อไปหรือไม่ นายบุญฤทธิ์บอกว่าตราบใดที่ยังไม่มีการตัดสินว่าท่านผิดก็ยังมีความศรัทธา ส่วนกิจกรรมจะร่วมกันต่อไหม ก็ต้องคุยกันกับคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย แต่ดูจากข้อมูลของข่าวที่นำเสนอกันออกมาแล้วยังซับซ้อนเยอะ ตนยังไม่รู้ว่าเรื่องไหนคือเรื่องจริงเรื่องไหนคือเรื่องเท็จ
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.ล้านนา) วิทยาเขตพิษณุโลก เดิมคือ วิทยาเขตเกษตรพิษณุโลก สังกัดวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ต่อมาได้รับพระราชทานชื่อใหม่เป็น “สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพิษณุโลก” และภายหลัง (พ.ศ. 2548) เป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก ตามพระราชบัญญัติ ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน