ตาก - ชายแดนแม่สอดป่วนหนัก..เมียนมาสั่งปิดสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ตัดเส้นทางส่งออกสินค้าไทย ผ่านแม่สอด-เมียวดีแบบสิ้นเชิง หลังสั่งจับรถบรรทุกสินค้าไม่มีใบอนุญาตทุกคัน จนขบวนรถพ่วง-เทรลเลอร์ค้างเติ่งหน้าด่านฯ มากว่า 10 วัน
วันนี้ (18 ส.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.แม่สอด จังหวัดตากว่า ทางการเมียนมาจังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้ามบ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ที่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ทำการปิดด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดี 2 สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ตรงข้ามบ้านวังตะเคียนใต้ ทำให้รถยนต์ทุกชนิด และสินค้าไม่สามารถผ่านได้
โดยการปิดด่านพรมแดน 2 ของฝ่ายเมียนมาไม่มีการแจ้งให้ทางการไทยทราบแต่อย่างใด แม้แต่ทางด่านศุลกากรแม่สอดก็ไม่ได้รับแจ้ง
ซึ่งด่านพรมแดนดังกล่าวเป็นช่องทางที่สำคัญที่สุดในการส่งออก-นำเข้าสินค้า ข้ามพรมแดนไทย-เมียนมา ก่อนหน้านี้เคยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันเดือนละกว่าหมื่นล้านบาท หรือไตรมาสละเกือบ 50,000 ล้านบาท ล่าสุดเหลือเพียงหมื่นกว่าล้านบาทต่อไตรมาสเท่านั้น
และเมื่อทางการเมียนมามีคำสั่งปิด ทำให้ช่องทางการค้าใหญ่สุดของภาคเหนือหยุดชะงักอย่างสิ้นเชิงทันที
แหล่งข่าวจากทหารชนกลุ่มน้อยในพื้นที่จังหวัดเมียวดีแจ้งว่า คำสั่งปิดด่านพรมแดนมาจากหน่วยเหนือที่เมืองเนปิดอว์ เบื้องต้นคาดว่าทางการเมียนมาต้องการกดดันให้มีการส่งออกสินค้าเข้าสู่ระบบ เพื่อให้รัฐมีรายได้ เนื่องจากที่ผ่านมารายได้ส่วนมากจากการค้าชายแดนไปตกอยู่กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ รวมทั้งกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (บีจีเอฟ) ที่เป็นกองกำลังหลักในพื้นที่ด้วย ทางการเมียนมาจึงออกมาตรการเข้มงวดสินค้าไทย เพื่อต้องการจัดระเบียบใหม่เพื่อให้รัฐมีรายได้
อย่างไรก็ตาม ทางการเมียนมายังคงเปิดสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 โดยเปิดให้ชาวไทย ชาวเมียนมาข้ามแดนไปมาได้ตามปกติ และสามารถขนส่งสินค้ารายย่อย ซึ่งเป็นสินค้าใช้สอยในท้องถิ่นได้เช่นเดิม
ทั้งนี้ สภาบริหารทหารเมียนมาได้เข้มงวดสินค้าจากชายแดนไทยเข้าประเทศเมียนมา โดยตั้งจุดสกัดตามพื้นที่ชั้นใน ตรวจยึดรถยนต์ และสินค้านำเข้าของผู้ประกอบการชาวเมียนมาที่นำสินค้าจากประเทศไทยเข้าไปยังประเทศเมียนมา อย่างต่อเนื่อง ทำให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่ขนสินค้าจาก กทม.-แหลมฉบัง-จังหวัดต่างๆ ต้องจอดรออยู่หน้าด่านฯ แม่สอด กว่า 500 คัน มานานกว่า 10 วันแล้ว
นายชัยรัตน์ วิเชียร เลขาธิการหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า การที่ทางการเมียนมาเข้มงวดการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย ไม่ได้หมายถึงว่าทางการเมียนมาต่อต้านสินค้าไทย แต่ทางการเมียนมาได้ประกาศให้ผู้ประกอบการชาวเมียนมาที่ส่งออก และนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยต้องไปขอใบอนุญาตประกอบการนำเข้า และส่งออกสินค้า ที่มีทั้งสินค้าอุปโภค-บริโภคทั้งหมดกว่า 500 รายการ ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2568
นั่นหมายถึงผู้ประกอบการชาวเมียนมาต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการนำเข้า และส่งออกสินค้าจากทางการเมียนมาก่อนจะทำการประกอบการธุรกิจการค้าได้ กระทั่งเริ่มมีความเข้มงวดมากขึ้น จึงมีการตั้งจุดตรวจสกัดจับกุมในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งมีรายงานว่ามีการจับรถบรรทุกสินค้าไปแล้วกว่า 120 คันด้วย