MGR Online - ชาวบ้านฉ่วยก๊กโก แหล่งคอลเซ็นเตอร์ในเมียวดีต่างหวาดผวา แห่ไปเติมน้ำมันตุนไว้เต็มถัง กลัวจะเกิดภาวะขาดแคลนขึ้นอีกครั้ง หลังรอง ผบ.สส.เมียนมา สั่งจับรถสินค้าที่ข้ามแดนจากประเทศไทย 120 คัน เพราะไม่มีใบอนุญาตค้าชายแดน
วันนี้ (14 ส.ค.) เพจคนถ้องถิ่นฉ่วยก๊กโก (ရွှေကုက္ကို ဒေသခံ) ได้เผยแพร่ภาพสถานการณ์ภายในพื้นที่เมืองใหม่ฉ่วยก๊กโก จังหวัดเมียวดี ตรงข้ามกับอำเภอแม่สอดและแม่ระมาด จังหวัดตาก
ภาพที่โพสต์ มี 2 ภาพ ภาพหนึ่งเป็นภายในสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งพบว่ามีรถจักรยานยนต์จำนวนหลายสิบคันกำลังรอเติมเติมน้ำมันอยู่เต็มพื้นที่ ส่วนอีกภาพหนึ่ง เป็นถนนที่กำลังมุ่งหน้าไปยังสถานีบริการน้ำมัน เป็นภาพที่ถ่ายห่างจากด้านหน้าสถานีหลายร้อยเมตร เห็นรถยนต์หลายสิบคันจอดรอเป็นแถวยาวเหยียด เพื่อจะเข้าไปเติมน้ำมัน
คำบรรยายภาพเขียนว่า ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์กำลังแย่งกันเติมน้ำมันให้เต็มถัง หลังปรากฏข่าวการจับกุมรถบรรทุกสินค้าจากอำเภอแม่สอด ที่ข้ามไปส่งสินค้าในเมืองเมียวดี ทำให้ชาวบ้านในเขตเมืองใหม่ฉ่วยก๊กโกเกิดความหวาดผวา วิตกกังวลว่าจะเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นมาอีกครั้ง
โดยเมื่อวานนี้(13 ส.ค.) มีรายงานว่า พล.อ.อาวุโส โซวิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เมียนมา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามที่มีทั้งทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ศุลกากร จากส่วนกลางเข้าตรวจสอบ จับกุมรถบรรทุกสินค้าจากประเทศไทยมากถึง 120 คัน โดยให้เหตุผลว่าไม่มีใบอนุญาตประกอบการค้าชายแดน
ส่งผลให้ในฝั่งแม่สอด มีรถทุกที่ขนสินค้าประเภทต่างๆ ทั้งจากกรุงเทพฯและจังหวัดอื่น มากกว่า 500 คัน ต้องจอดรออยู่ตามจุดพักรถ และหน้าด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดี 2 บ้านวังตะเคียนใต้ ตำบลท่าสายลวดเพราะไม่สามารถข้ามไปส่งสินค้ายังฝั่งเมียวดีได้
ตามข่าว มีการสัมภาษณ์นักธุรกิจชาวเมียนมาผู้หนึ่ง บอกว่า การขอใบอนุญาตค้าชายแดนที่ออกโดยรัฐบาลกลางเมียนมานั้นไม่คุ้มกับต้นทุน เพราะต้องเสียเงินให้ทางการเมียนมาเป็นสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่การขนส่งสินค้าข้ามชายแดนจากไทยไปเมียนมาทุกวันนี้ ทำได้เฉพาะในพื้นที่อิทธิพลของกองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงเท่านั้น ถ้าสินค้าถูกขนส่งเลยเข้าไปยังส่วนกลางก็ต้องถูกจับ
เมืองใหม่ฉ่วยก๊กโก เป็นพื้นที่อิทธิพลของกองกำลังป้องกันชายแดน(BGF) กะเหรี่ยง ที่มีนายพลซอซิดตู่เป็นผู้บัญชาการ ในเขตนี้ เป็นแหล่งที่ตั้งธุรกิจของพวกจีนเทาที่เข้ามาประกอบอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ ทั้งบ่อนการพนันออนไลน์ และคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งแม้ทางการจีนได้ส่งเจ้าหน้าที่มาประสานงานกับทางการเมียนมา ไทย และ BGF เพื่อกวาดล้างใหญ่แล้วถึง 2 ครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถปราบปรามได้หมด ยังคงเหลือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของจีนเทาอยู่อีกหลายกลุ่ม