ตาก - หน่วยงานเกี่ยวข้องนัดประชุมหาทางออกกันพรุ่งนี้..พม่าเข้ม-คงคำสั่งจับรถบรรทุกสินค้าไทยเข้าเมียนมาจนขบวนเทรลเลอร์กว่า 500 คันยังรอค้างเติ่งหน้าด่านฯ แม่สอดแบบไม่รู้อนาคต บางคันจอดนอนรอร่วม 10 วันแล้ว
วันนี้ (17 ส.ค. 68) รถพ่วง-เทรลเลอร์ไทย บรรทุกสินค้าจาก กทม.แหลมฉบัง และต่างจังหวัด ยังคงต้องจอดรอบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ที่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อรอส่งสินค้าไปยังฝั่งเมียนมา จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด บางคันต้องมาจอดรอกันแบบข้ามวันข้ามคืนร่วม 10 วันแล้ว โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะสามารถส่งสินค้าข้ามฝั่งเข้าเมียนมาได้เมื่อไหร่
หลังจากที่สภาบริหารทหารเมียนมาได้เข้มงวดสินค้าจากชายแดนไทยเข้าประเทศเมียนมา โดยตั้งจุดสกัดตามพื้นที่ชั้นใน ตรวจยึดรถยนต์ และสินค้านำเข้าของผู้ประกอบการชาวเมียนมาที่นำสินค้าจากประเทศไทยเข้าไปยังประเทศเมียนมา
นายชัยรัตน์ วิเชียร เลขาธิการหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า การที่ทางการเมียนมาเข้มงวดการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย ไม่ได้หมายถึงว่าทางการเมียนมาต่อต้านสินค้าไทย แต่ทางการเมียนมาได้ประกาศให้ผู้ประกอบการชาวเมียนมาที่ส่งออก และนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยต้องไปขอใบอนุญาตประกอบการนำเข้า และส่งออกสินค้า ที่มีทั้งสินค้าอุปโภค-บริโภคทั้งหมดกว่า 500 รายการ ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2568
นั่นหมายถึงผู้ประกอบการชาวเมียนมาต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการนำเข้า และส่งออกสินค้าจากทางการเมียนมาก่อนจะทำการประกอบการทางธุรกิจการค้าได้ กระทั่งเริ่มมีความเข้มงวดมากขึ้น จึงมีการตั้งจุดตรวจสกัดจับกุมในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งมีรายงานว่ามีการจับรถบรรทุกสินค้าไปแล้วกว่า 120 คันด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากสินค้าจากประเทศไทยที่ถูกส่งไปยังฝั่งเมียวดีของเมียนมาแล้ว ฝ่ายเมียนมายังเข้มงวดสินค้าส่งออกของพ่อค้าชายแดนไทย-เมียนมา ที่นำสินค้าจากพื้นที่ชั้นในมาพื้นที่ชายแดนด้วย ทำให้พ่อค้าน้ำมันเชื้อเพลิงเมียนมาไม่สามารถส่งมาพื้นที่ชายแดนได้
ประกอบกับมาตรการ 3 ตัดขจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียวดีฝั่งเมียนมาของประเทศไทย ที่ห้ามไม่ให้น้ำมันเชื้อเพลิงไปยังประเทศเมียนมา จึงทำให้จังหวัดเมียวดีเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงต่อเนื่องยาวนาน ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงหลายแห่งต้องปิด พ่อค้าเมียนมา และผู้ที่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต้องเดินทางไปซื้อน้ำมันที่ อ.แม่สอดกันเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 ส.ค.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ-เอกชน โดยเฉพาะศุลกากร หอการค้าจังหวัดตาก ฯลฯ จะร่วมประชุมเพื่อหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งพยายามหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป