บุรีรัมย์- คุณยายวัย 81 ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ร่ำไห้หลังทราบข่าวหลานชายที่ทำงานอยู่อิสราเอล นอนตายในแคมป์คนงาน วอนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือพานำศพบำเพ็ญกุศลบ้านเกิด เพราะครอบครัวไม่รู้ช่องทางดำเนินการซ้ำฐานะยากจน
วันนี้ (17 พ.ค.67) นางหวอย คณารัมย์ อายุ 81 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านสี่เหลี่ยม ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ถึงกับร้องไห้โฮเพราะทำใจไม่ได้ หลังทราบข่าวว่า นายประเสริฐ นาคเสน หรือดาม อายุ 35 ปี หลานชาย ทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอล นอนเสียชีวิตภายในแคมป์คนงาน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าน่าจะเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งทางครอบครัวก็ไม่ได้ติดใจสาเหตุการตาย แต่อยากวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือพาร่างของหลาน กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด เพราะครอบครัวไม่รู้ช่องทางการดำเนินการประกอบกับฐานะยากจน ไม่มีเงินที่จะเดินเรื่องนำศพกลับบ้านเองได้หากมีค่าใช้จ่ายสูง
นางหวอย เล่าว่า หลานชายเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล ช่วงเดือนมิถุนายน 2564 เดือนหน้าก็จะครบ 3 ปี โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2566 ที่ผ่านมา ทางนายจ้างได้ให้หลานกลับมาพัก ประมาณ 1 เดือน เขาก็กลับมาตามปกติ ก่อนกลับหลานยังมาไหว้และบอกให้ยายดูแลสุขภาพ ตนก็ยังอวยพรเอาดินที่หน้าบ้านโปรยใส่หัว ขอให้เขาเจริญรุ่งเรืองแคล้วคลาดปลอดภัยอยู่เลย ตอนช่วงที่มีการสู้รบกันตนยังภาวนาให้หลานปลอดภัย ก็ยังดีใจที่หลานรอดปลอดภัยจากเหตุสู้รบ
แต่พอทราบข่าวว่าหลานนอนเสียชีวิตในแคมป์คนงานก็เสียใจมาก ไม่คิดว่าหลานจะมาจากไปเร็วขนาดนี้ อยากให้หน่วยงานรัฐช่วยเหลือพาศพหลานกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดด้วย อยากเห็นหน้าหลานเป็นครั้งสุดท้าย
ทีมข่าวได้ติดต่อสอบถามข้อมูลจาก นายพีรพงษ์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน ของผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า โดยปกติแล้วการทำงานที่อิสราเอลเป็นภาคการเกษตรก็จะปลูกสตรอเบอรีเป็นส่วนใหญ่ สภาพอากาศที่อิสราเอลค่อนข้างร้อนจัด ผู้ตายเขาเปิดแอร์เป็นแบบแอร์ตั้งเรื่องของความร้อนก็จะวนเวียนอยู่ในห้อง ไม่ระบายออกข้างนอก ซึ่งตอนเช้าตนออกไปทำงานตามปกติ คิดว่าผู้ตายคงจะตื่นสายจึงไม่ได้เข้าไปปลุกก็ออกไปทำงานก่อน
กระทั่งกลับเข้ามาที่แคมป์ตอนเลิกงาน ก็ยังไม่เห็นผู้ตายจึงตัดสินใจไปเปิดประตูดูพบว่านอนเสียชีวิตแล้ว คาดว่าน่าจะเกิดจากอากาศร้อนจัดหรือหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งคนไทยที่มาทำงานที่ประเทศอิสราเอลเคยนอนเสียชีวิตในลักษณะนี้มาแล้วหลายคน