อุดรธานี - 2 ครอบครัวแรงงานไทยในอิสราเอลสุดเศร้ารู้ข่าวลูกเสียชีวิต หลังมีข่าวล่าสุดคนไทยดับเพิ่มอีก 6 ราย ในจำนวนนั้นเป็นแรงงานอุดรฯ ถึง 4 ราย ที่บ้านหนองบัวแดง อ.หนองหาน 2 รายเป็นญาติพี่น้องกัน แม่เล่าลูกชายเตรียมกลับบ้านวันที่ 15 ต.ค.นี้ ส่วนอีกคนรอวันหมดสัญญาตั้งใจมาบวชให้แม่ในเดือนพฤศจิกายนนี้
จากสถานการณ์สู้รบที่เกิดขึ้นของกองกำลังติดอาวุธกลุ่มฮามาสบุกเข้าไปในประเทศอิสราเอล ยิงคนไม่เลือกหน้าและบุกแคมป์คนงานยิงคนงานไทยเสียชีวิตหลายราย ล่าสุดวันนี้ (10 ต.ค.) มีรายงานว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ Anucha Nu ได้โพสต์เรื่องเศร้า ข้อความระบุว่า... ขอไว้อาลัย แรงงานไทยที่คีบุส คิซุฟิม 6 รายเป็นคิบุสที่ติดกับฉนวนกาซา ที่สุดทหารเข้าไปเมื่อคืนเพื่อเคลียร์พื้นที่ พบศพน้องแรงงานไทย 6 ราย ขอให้ดวงวิญญาณน้องๆ ไปสุคตินะคะ
ขณะที่อีกโพสต์มีข้อความว่า ในที่สุดก็ไม่ได้มากินข้าวด้วยกัน...หลับให้สบายนะ หลอย แจ๊ค หม่อน พ่อใหญ่ดอน พ่อใหญ่ปูโจ้ เห็นบ่นว่าเหนื่อย...ไม่เหนื่อยแล้วนะ พร้อมภาพแรงงานไทยที่เสียชีวิตจำนวน 6 ราย และจากรายงานดังกล่าวทราบว่าเป็นแรงงานไทยที่ จ.อุดรธานีถึง 4 ราย และทางญาติยืนยันแล้วว่าเสียชีวิตจริง
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหนองบัวแดง ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยที่หมู่บ้านนี้มีแรงงานไทยเสียชีวิต 2 ราย โดยรายแรก บ้านเลขที่ 151 หมู่ 5 บ้านหนองบัวแดง ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน ซึ่งเป็นบ้านของนายธีระพงษ์ กลางสุวรรณ หรือดอน อายุ 38 ปี แรงงานไทยที่เสียชีวิต ที่บ้านมีบรรดาญาติๆ และชาวบ้านเดินทางมาถามข่าวและแสดงความเสียใจด้วย
นางวรรณ กลางสุวรรณ อายุ 60 ปี แม่นายดอน เปิดเผยว่า นายดอนเป็นลูกชายไปทำงานเกษตรที่ประเทศอิสราเอลได้ 2 ปี 10 เดือน ลูกชายตั้งใจมาพักร้อนอยู่แล้วในวันที่ 15 ต.ค. 66 จะกลับบ้านในช่วงวันเกิดลูกชายด้วย แถมบอกน้องๆ ว่าเตรียมล้างท้องเอาไว้ด้วย บอกว่าพี่กลับไปจะมาเลี้ยงสังสรรค์ให้ครอบครัว ที่รู้ข่าวว่าลูกเสียชีวิตเห็นในข่าว จริงๆ แล้วก็บอกลูกชายว่ากลับมาบ้านได้ไหมอยู่ไม่ครบก็ตาม เพราะแม่กลัวเห็นข่าวยิงกันตลอดแม่ใจไม่ดี เห็นภาพว่าเป็นลูกชายว่าตายแล้ว แม่บอกได้คำเดียวว่าแม่เสียใจมาก
ที่ลูกชายจะกลับมาวันที่ 15 ต.ค. 66 นี้บอกแม่ว่าจะกลับมาพักร้อน แต่แม่ก็บอกว่า “ไม่ต้องกลับไปอีกหรอกลูก มีงานอะไรก็ทำในเมืองไทยก็ได้ แม่ไม่อยากให้ลูกไปทำงานไกลและอันตราย” แต่วันนี้รู้ข่าวลูกชายเสียชีวิตแม่พูดไม่ออกร้องไห้จนไม่มีน้ำตา หัวอกคนเป็นแม่พูดไปปาดน้ำตาร้องไห้ไม่ยอมหยุด
ส่วนนางดี้ อายุ 39 ปี ภรรยานายดอน เปิดเผยว่า ได้คุยกับสามีตอนสิบโมงเช้าของวันเสาร์ที่ 7 ต.ค. 66 ก่อนเกิดเหตุเลย พอคุยกับสามีได้ 20 นาทีได้ยินเสียงระเบิดสัญญาณมือถือก็ตัดไป จากนั้นใจไม่ดีก็พยายามติดต่อแต่ติดต่อไม่ได้ มารู้ข่าวอีกทีว่าสามีชีวิตเมื่อคืนนี้ พี่อนุชาแจ้งข่าวมาว่าดอนเสียชีวิตแล้วนะ ตอนนี้เสียใจมาก พูดไม่ออกเลยไม่คิดว่าจะเป็นสามีตนเอง
15 ต.ค. 66 สามีก็จะกลับมาบ้านแล้ว ของที่สามีให้สั่งเอาไว้ก็เตรียมไว้หมดแล้ว และของที่ส่งมาจากอิสราเอลก็มาถึงเมื่อวานนี้ ไม่คิดว่าวันนี้จะเป็นข่าวร้ายสำหรับครอบครัว ก็อยากให้ทางหน่วยงานช่วยเหลือนำศพสามีกลับมาบ้านให้ด้วย แม้ไม่มีชีวิตก็ขอเป็นร่างก็ยังดี ภรรยาพูดไปร้องไห้ไป
ส่วนแรงงานไทยที่เสียชีวิตรายที่ 2 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 155 หมู่ 4 บ้านหนองบัวแดง พบกับนางเพ็ญ อินธนู อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นคุณแม่ของนายไกรสร อรัญถิตย์ หรือ “เหลย” อายุ 29 ปี แรงงานไทยที่เสียชีวิตอีกราย โดยวันนี้มีนายทรงพล ประดิษฐ์ด้วง ปลัดอาวุโส อ.หนองหานพร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเดินทางมาให้กำลังใจและประสานการช่วยเหลือต่อไป
นางเพ็ญ แม่นายเหลย เล่าว่า ลูกชายไปทำงานเลี้ยงวัวและไก่ที่อิสราเอลจะครบ 5 ปีแล้ว และจะเดินทางกลับมาบ้านในเดือนพฤศจิกายนนี้ รู้ข่าวเมื่อวานนี้หลานชายทำงานที่ประเทศอิสราเอลโทร.มาบอกว่าเหลยเสียชีวิตแล้วนะ เพราะถูกยิงกองกันอยู่ 6 รายในแคมป์คนงาน หลานชายบอกตอนแรกไม่อยากจะเชื่อ คิดว่าเหลยยังไม่ตาย ตอนนี้หลานชายบอกว่าทางนายจ้างและทหารกำลังจะเข้าไปเอาศพออกมาแต่ยังไม่สามารถนำออกมาได้ ตอนนี้อยากให้ทางการไทยช่วยนำศพลูกชายกลับมาให้แม่ที่บ้านเกิดด้วยเถิด ทางแม่จะได้บำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ลูกชายบอกว่า หลังกลับบ้านเดือนพฤศจิกายนจะมาบวชให้แม่และยายนะแม่ ตอนท้ายแม่ร่ำไห้บอกลูกชายว่า เหลยจากไปก็ไม่บอกแม่ ไม่มาร่ำมาลาแม่สักคำ มาบอกแม่สักคำ จะบวชก็ยังไม่บวชมาจากแม่จากไปแบบนี้ หัวอกคนเป็นแม่พูดไปก็สะอื้นร้องไห้หัวใจแทบสลาย