อุดรธานี - ไชยยา รักษานนท์ หรือไม้ แรงงานหนุ่มวัย 28 ปีชาวอุดรธานีอีกคนหนึ่งที่จนป่านนี้ญาติยังไม่สามารถติดต่อได้ คาดถูกยิงเสียชีวิตภายในแคมป์คนงานแล้วแม้จะไม่เจอร่าง เพราะห้องพักถูกกราดยิงไฟลุกไหม้เผาวอด
ภรรยา แม่ และพี่สาวภาวนาให้ปลอดภัย แต่หากตายจริงขอกระดูกกลับมาทำบุญที่บ้านเกิดก็ยังดี
จากเหตุการณ์สู้รบ "อิสราเอล-ฮามาส" แรงงานไทยหลายสิบชีวิตได้รับผลกระทบ บ้างถูกจับไปเป็นตัวประกัน บ้างถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บ และอีกหลายคน ลูกเมียญาติพี่น้องยังไม่สามารถติดต่อได้ ไม่รู้ชะตากรรมเป็นตายร้ายดีอย่างไร
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (9 ตุลาคม 2566) ทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับครอบครัวหนึ่ง ที่บ้านเลขที่ 46 ม.14 บ้านทุ่งขวาง ต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ซึ่งลูกชาย นายไชยยา รักษานนท์ หรือไม้ อายุ 28 ปี ทำงานที่ประเทศอิสราเอล แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ คาดว่าจะเสียชีวิตหรือสูญหายหลังเกิดเหตุสู้รบ ซึ่งทั้ง ภรรยา พี่สาว และแม่ ต่างบอกด้วยสีหน้าทุกข์ใจว่า ขอให้ไม้กลับมาบ้านเราอย่างปลอดภัย หากเสียชีวิตแล้วก็ขอให้ได้นำกระดูกกลับมาทำบุญตามประเพณีที่บ้านเกิด
นางสาวรัชนี สกุลดี อายุ 28 ปี พี่สาวนายไชยยา หรือไม้ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุสู้รบตนได้พูดคุยกับน้องชายเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา น้องแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันที่หน้าแคมป์คนงาน มีชาวเนปาลเสียชีวิต จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้จนถึงวันนี้ ตนได้สอบถามไปยังเพื่อนคนงานของน้องชาย ต่างก็แจ้งกลับมาทางแชตว่า “ให้ทำใจ” และเท่าที่ทราบข้อมูลตอนนี้มีคนไทยเสียชีวิตที่แคมป์ที่น้องชายพักอาศัยอยู่แล้ว 13 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคาดว่าเป็นน้องชาย
ด้านนางสาวสายใจ ศรีบุญ อายุ 28 ปี ภรรยา บอกว่า ตนแต่งงานกับนายไม้ได้ 3 ปี จากนั้นเขาก็ขอไปทำงานที่อิสราเอล ตำแหน่งพนักงานขับรถส่งมันฝรั่ง หลังรู้ข่าวสามีถูกยิงเสียชีวิต นอนไม่หลับ กินอะไรก็ไม่ลง ส่วนตัวยังไม่เชื่อว่าสามีจะเสียชีวิต ต้องรอการยืนยันจากทางการอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ สามีไปทำงานที่อิสราเอลได้ราว 3 ปี โดยแชตข้อความล่าสุดที่คุยกัน สามีบอกว่ามีการยิงกันในแคมป์คนงาน ตนก็บอกให้ดูแลตัวเองดีๆ จากนั้นตนไม่สามารถติดต่อสามีได้
ขณะที่นางทองยิ้ม รักษานนท์ อายุ 48 ปี ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า หลังรู้ข่าวจากเพื่อนแรงงานว่าลูกตนเสียชีวิตแล้วรู้สึกเสียใจ แต่ก็ภาวนาว่าขออย่าให้ลูกเสียชีวิต สาเหตุที่ลูกไปทำงานอิสราเอลก็เพราะต้องการหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว โดยตนได้บนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ลูกปลอดภัย ขอฝากถึงทางการไทยช่วยพาลูกกลับบ้าน หากตายแล้วก็ขอเอากระดูกกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน แต่ก็ภาวนาขอให้ลูกกลับมาแบบมีชีวิตตัวเป็นๆ จะดีกว่า
ทั้งนี้ ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับแรงงานคนไทยชาวโคราชท่านหนึ่งผ่านวิดีโอคอล ชื่อนายก๋วย ซึ่งรู้จักกับนายไชยยา หรือไม้ เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์สู้รบตอนนี้ยังไม่สงบ คนไทยส่วนใหญ่หลบอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว การเสียชีวิตของน้องไม้นั้น ยังไม่ขอคอนเฟิร์ม แต่จะเล่าเหตุการณ์ตอนนั้นให้ฟังว่าผู้ก่อการร้ายเข้ามาในแคมป์คนงาน ได้กราดยิงคนงานเสียชีวิตก่อน 2 ราย ซึ่งเป็นชาวเนปาล สักพักผู้ก่อการร้ายกลับมากราดยิงอีกครั้ง ตอนนั้นคนงานไทยได้พยายามหลบหนีไปคนละทิศละทาง ทั้งกราดห่ากระสุน ทั้งปาระเบิด จนเกิดเหตุไฟไหม้
สำหรับแคมป์คนงานที่ตนเองพักอยู่มีคนไทยมากถึง 6 ห้อง ห้องที่นายไม้อยู่เป็นห้องหมายเลข 5 ถูกระเบิดไฟลุกไหม้ทั้งห้อง เท่าที่รู้ข้อมูลคาดว่ามีผู้เสียชีวิต 23 ราย ชาวเนปาล 10 ราย คนไทยเสียชีวิตและสูญหาย 13 ราย