รวบสาวทอมหน้าเด็กคาม่านรูด หลังตระเวนลักทรัพย์ ซ้ำหลอกหัวหน้างานให้โอนเงิน 5,000 บาท เอาไปใช้
วันนี้ (30 เม.ย.) ที่ สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ท.อิศราณุวัฒน์ ธนทรัพย์ทวี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนนทบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าจับกุมตัว น.ส.ชุติมน ศรีนาค อายุ 28 ปี ที่อยู่ 132/4 ม.1 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมของกลาง คือ 1. กุญแจรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ จำนวน 3 ดอก 2. ใบอนุญาตขับรถยนต์ ของนายสาคร พลอยพันธ์ ผู้เสียหาย 3. บัตรประจำตัวประชาชน ของนายสาคร พลอยพันธ์ ผู้เสียหาย 4. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ซัมซุง รุ่น เอ12 จำนวน 1 เครื่อง 5. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ เรียวมี่ รุ่น 8เอ จำนวน 1 เครื่อง 6. บัตรกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ เอโอเอ จำนวน 2 ใบ 7. บัตรกดเงินสด ธนาคารออมสิน จำนวน 1 ใบ 8. บัตรเครดิต อีออน จำนวน 2 ใบ 9. กระเป๋าสะพายข้างจำนวน 1 ใบ โดยจับกุมตัวได้ที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ตำรวจแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
นายสาคร พลอยพันธ์ อายุ 43 ปี พนักงานบริษัท ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้เวลาประมาณ 04.30-05.00 น. ตนตื่นมาจากแคมป์คนงานบริษัทย่านแยกบางพลัด กทม. ทางภรรยาตนได้หาโทรศัพท์มือถือ แต่หาไม่เจอ รวมถึงทรัพย์สินของตนอีกหลายอย่างทั้งกระเป๋า กุญแจรถยนต์ 3 ลูก บัตรประชาชน ใบขับขี่ และพระเครื่อง หลังจากหาทรัพย์สินไม่เจอ จึงเดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอยสวน สน.บางพลัด ช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากนั้น ตนได้จับสัญญาณ GPS โทรศัพท์ตนที่หายไป ปรากฎว่า พบพิกัดอยู่จังหวัดนนทบุรี ตนจึงประสานไปยังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี แจ้งพิกัดและเดินทางไปตรวจสอบพร้อมตำรวจที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง อ.เมืองนนทบุรี ปรากฏว่า เจอตัวผู้ต้องหากำลังนอนพักผ่อนในโรงแรมอย่างสบายใจ
ตำรวจจึงทำการตรวจค้นพบของกลางของตนทั้งหมด หลังจากตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหามาแล้ว ตนมาทราบทีหลังว่าทางผู้ต้องหาได้นำโทรศัพท์มือถือตนหลังจากขโมยไป ได้ทักไลน์ไปหาหัวหน้าตนที่ทำงานว่าให้โอนเงินจำนวน 5,000 บาท เข้า 2 บัญชีแบ่งเป็นบัญชีแรก 2,000 บาท และบัญชีที่สองอีก 3,000 บาท อ้างว่า ลูกสาวตนป่วยขอเงินไปรักษา โดยหัวหน้าไม่ได้คิดอะไร เพราะเขารักลูกสาวตนเหมือนลูกอีกคนนึงอยู่แล้ว ทั้งนี้ ทางผู้ต้องหาก็ได้ทักไปหาญาติตน และเพื่อนอีกหลายคนเพื่อขอยืมเงิน สุดท้ายวันนี้ทางตนต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ที่ทำงานรวดเร็วทันใจประชาชน เจอพิกัดเป้าหมายแล้วเข้าตรวจสอบทันที
ทางด้าน นายปณิธาน ตั้งอุทัย เจ้าของบริษัท ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้เวลาประมาณ 05.30 น. ลูกน้องตนได้ทักมาขอเงินโดยบอกว่าลูกสาวป่วยเข้าโรงพยาบาล ต้องการเงินจำนวน 2,000 บาท ให้โอนเข้าบัญชีภรรยา ยังไม่พอได้ทักมาขอเบิกเงินค่าทำงานล่วงหน้าอีกจำนวน 3,000 บาท ตนจึงไม่ได้คิดอะไร เนื่องจากลูกน้องตนได้ทักมาขอเบิกค่าทำงานประจำประจำอยู่แล้วจึงโอนเงินให้ไปทั้งหมดจำนวน 5,000 บาท ด้วยความเป็นห่วง แต่มาทราบข่าวอีกที คือ ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหามาได้ สุดท้ายอยากฝากถึงผู้ก่อเหตุว่าอย่าไปทำอย่างนี้กับใครอีก อยากให้เห็นใจคนอื่นบ้างว่าทำงานสุจริตจะต้องมาโดนอะไรแบบนี้
ส.ต.ต.นัธทวัฒน์ เกตุแก้ว ผบ.หมู่.ป.สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า วันนี้เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนนทรี ว่า มีผู้เสียหายได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามโทรศัพท์มือถือ หลังจากถูกคนร้ายก่อเหตุขโมยแล้วหลบหนีไปในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยผู้เสียหายได้แจ้งพิกัด GPS โทรศัพท์ ให้กับเจ้าหน้าที่ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามไปยังจุดที่พบสัญญาณ ปรากฏว่า อยู่ที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในพื้นที่ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ตนจึงโทร.ประสานงานกับทางโรงแรม ซึ่งให้ความร่วมมือกับทางตำรวจเป็นอย่างดี จึงทำการเข้าตรวจสอบพบผู้ก่อเหตุได้พักอยู่ในโรงแรมดังกล่าวจริง พร้อมพบของกลางหลายรายการตามที่ทางผู้เสียหายได้แจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ทางตำรวจจึงนำตัวพร้อมของกลางมาที่ สภ. เมืองนนทบุรี และทำการประสานทางผู้เสียหายมาชี้ตัวผู้ก่อเหตุและของกลาง พร้อมประสานตำรวจ สน.บางพลัด ให้ทำการอายัดตัวไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ส่วนทางด้าน น.ส.ชุติมน ผู้ต้องหา ได้ร้องไห้นำมือปิดหน้าตาตลอดเวลา ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด แต่ในขณะที่ตำรวจเข้าตรวจค้นตัวที่โรงแรม น.ส.ชุติมน อ้างว่า ตัวเองเป็นเด็กอายุ 10 ขวบ ปฏิเสธตำรวจตลอดเวลา จนกระทั่งพบของกลางทั้งหมดปรากฏว่านั่งซึมไม่พูดจาก่อนตำรวจนำตัวมาโรงพัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ชุติมน ผู้ต้องหา ได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ขโมยมือถือในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพวันที่ 27 พ.ย. 64 ก่อเหตุขโมยมือถือแม่ค้าขายของ พร้อมกดเงินในมือถือออกไปจำนวน 4,000 บาท แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.ปากเกร็ด
ต่อมาภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพวันที่ 27 เม.ย. 67 เวลาประมาณ 21.30 น. ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุขโมยมือถือในร้านขายขนมจีน อ.เมือง จ.นนทบุรี แล้วหนีไปพร้อมทั้งทักไลน์มาหาผู้เสียหายให้นำเงินมาถ่ายมือถือในราคา 1,500 บาท เหตุเกิดพื้นที่สภ.รัตนาธิเบศร์ แต่จับตัวไม่ได้