บุรีรัมย์ - หลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบสำนักหม้อครอบหัวรักษาโรค ที่ อ.ประโคนชัย หลังแชร์ว่อนโซเชียล แต่ไร้เงาอาจารย์ปู่ตรัย เจ้าสำนัก พบเพียงพ่อดูแลพื้นที่ก่อสร้างอาศรมแต่ไม่อนุญาตให้ จนท.เข้าไปตรวจสอบ บอกไม่มีหมายค้นห้ามเข้า ด้าน จนท.รวบรวมข้อมูลรายงานผู้บังคับบัญชาพิจารณาเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ใดเกี่ยวกับการรักษา หรือเรียกรับเงินหรือไม่
ภายหลังจากมีการเผยแพร่คลิปภาพทางโลกโซเชียล อาจารย์ปู่ตรัย เป่ามหาระงับอาศรม อโรคยาประโคนชัยบุรีรัมย์ ระบุวิชาครอบหม้อเปิดตาที่สาม เปิดตาทิพย์ แสงพุ่งจ๊วดดดด ซึ่งเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งที่แปลกประหลาด คือ การเอาหม้อแกงอะลูมิเนียมมาครอบศีรษะผู้ที่เข้าไปรับการรักษา แล้วเอาวัสดุบางอย่างไปเคาะก้นหม้อ แล้วเปิดหม้อแกงออกมา พร้อมกับเอ่ยปากว่า “เปิดตาทิพย์เปิดตาที่สาม” จนกลายเป็นกระแสฮือฮา
ล่าสุดวันนี้ (15 พ.ค.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอประโคนชัย ฝ่ายปกครองอำเภอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค ปลัดเทศบาลตำบลโคกม้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย ผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ตรวจสอบอาศรมสวนมั่งมี สถานีภูมิปัญญา หรือบ้านของอาจารย์ปู่ตรัย หรือนายประดิษฐ์ อายุ 46 ปี เจ้าของตำรับวิชาเอาหม้อแกงครอบศีรษะรักษาโรคหลายชนิดที่ตกเป็นข่าว ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านโคกเพชร ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย ซึ่งเป็นที่ดินส่วนตัวของพระอาจารย์ปู่ตรัย มีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่าบ้านปิด มีคนอยู่ข้างในบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าอาจารย์ปู่ตรัยไม่อยู่ ไม่รู้ไปไหน ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปข้างใน แต่จากการมองจากด้านนอกเข้าไปภายในสำนักวันนี้ดูเงียบเหงา ไม่พบใครเข้าไปรักษาโรคแต่อย่างใด
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบอาศรมอีกแห่ง ที่อาจารย์ตรัยกำลังก่อสร้างชื่อว่า “อโรคยา อาศรม” ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้านโคกเพชร ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งอาศรมดังกล่าวมีเนื้อที่กว้างแต่ไม่ทราบชัดเจนว่ากี่ไร่ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงก็ไม่พบตัวอาจารย์ปู่ตรัย พบชายวัยกลางคนเดินมาหาเจ้าหน้าที่
จากการตรวจสอบทราบว่าเป็นพ่อของอาจารย์ตรัย และไม่บอกเจ้าหน้าที่ว่าอาจารย์ตรัยไม่อยู่ แต่ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไป อนุญาตเพียงรถเข้าไปส่งน้ำแข็งเท่านั้น บอกว่าหากจะเข้าต้องมีหมายค้นเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายก่อน แต่เมื่อทีมข่าวถามว่าอาจารย์ตรัยไปไหน ชายคนดังกล่าวก็บอกว่าไม่ทราบเขาจะไปไหนไม่ต้องมารายงานตัวเอง ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเดินกลับเข้าไป เจ้าหน้าที่จึงทำได้แค่เก็บข้อมูล บันทึกภาพด้านนอกเท่านั้น เพราะไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในอาศรมทั้ง 2 จุดได้
นายวีรพล อุนนาทรวรางกูร ปลัดเทศบาลตำบลโคกม้า ระบุว่า หลังได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนกรณีดังกล่าว ก็ได้ร่วมกับหลายหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบ แต่ไม่เจอตัวอาจารย์ตรัยซึ่งเป็นผู้ที่ปรากฏในคลิปวิดีโอที่ใช้หม้อครอบรักษาโรค จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบข้างในได้ ก็จะได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ว่าสำนักหรืออาศรมดังกล่าวเข้าข่ายความผิดอะไรบ้าง ซึ่งจะมีเรื่องของการขายจำหน่ายสบู่หรือการผลิตว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ในส่วนของการรับบริจาคก็ต้องดูว่าผิดกฎหมายด้วยหรือไม่
ด้านนายสวาท เครื่องพาที ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอประโคนชัย บอกว่า วันนี้เป็นการลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และจะไปพูดคุยกับอาจารย์ที่ทำการรักษา แต่ไม่พบตัว และยังเข้าไปตรวจสอบด้านในไม่ได้ ก็จะได้รวบรวมข้อมูลรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ซึ่งก็ต้องดูว่าสถานที่ดังกล่าวมีการขออนุญาตดำเนินการรักษาโรคถูกต้องไม่ มีการเรียกรับเงิน หรือจำหน่วยผลิตภัณฑ์ต่างๆ ถูกต้องหรือไม่
รวมถึงการเก็บข้อมูลว่าชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการรักษาของอาศรมแห่งนี้ด้วยหรือไม่ เพื่อที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมกันดำเนินการตามกระบวนการต่อไป