“ภูมิธรรม” เดือดแต่เช้า ขออย่าใช้จินตนาการ ด้อยค่าข้าวไทย ลั่น ไม่ได้ขู่ แต่หากไม่หยุด อาจมีคนฟ้อง ยืนยันไม่ได้ย้อมแมวขาย ย้อนถามกินโชว์แล้ว ยังมีปัญหาอะไรอีก ใช้สมองคิดบ้างเปล่าที่ออกมาพูด พิสูจน์ข้าว 10 ปี ต้องใช้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มันไม่ใช่หน้าที่นายนู้นนายนี้ ยันถ้าเน่าจริงขายตามสภาพ แต่ถ้ามันเป็นข้าวดีขายได้ราคา ถามจริงใครเดือดร้อน หรือคนที่ออกมาค้านพยายามปกป้องสิ่งที่เคยทำผิดไว้หรือเปล่า
วันนี้ (14 พ.ค.) นายภูมิธรรม เวชยาชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีเมื่อวานได้เขียนความในใจให้สาธารณะได้รับรู้แล้ว แต่ตนขอเน้นย้ำว่า เรื่องนี้ตนได้พิสูจน์ ก่อนที่จะนำเข้ามาปล่อยประมูล โดยโปร่งใส กว้างขวาง เพราะตนไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกระบวนการข้างใน ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ มีสื่อมวลชนเข้าไปทุกสำนัก
ส่วนที่ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี ที่ออกมากล่าวหาว่ามีการสลับข้าว ไม่ใช่ข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ว่า นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีตราพบทั้งหมดไม่มีอะไรต้องปิดบัง อยากให้คนวิจารณ์ วิจารณ์ในหลักข้อเท็จจริง ไม่ใช่คิดไปเอง หรือสร้างนิยายในอากาศ มันไม่เป็นประโยชน์ เพราะข้าวเป็นสินทรัพย์ของประเทศไทย สามารถสร้างรายได้ส่งออกจำนวนมาก อย่ามาด้อยค่าเขาโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง เพราะจะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ ก่อนจะย้ำว่าตนพร้อมพิสูจน์ความจริง
นายภูมิธรรม กล่าวต่อได้ว่า ตามขั้นตอนของการประมูลข้าว ผู้ซื้อจะต้องมาตรวจสอบคุณภาพข้าว ซึ่งเขายอมรับได้ ตนไม่ได้ย้อมแมวขาย เพราะเขาจะเอาไปขายในตลาดแอฟริกา ไม่จำเป็นจะต้องเป็นข้าวใหม่ ก่อนจะย้อนถามว่าคนที่จะมาซื้อ เขาจะยอมซื้อข้าวเน่าหรือ ธุรกิจเขาเป็นหมื่นๆ ล้าน เขาจะมายอมให้ธุรกิจเขาพังได้อย่างไร
"ที่ออกมาพูดไม่มีความรู้ เท่ากับว่า เป็นการให้ข้อมูลเท็จเข้าไปในคอมพิวเตอร์ ผิดกฎหมาย แต่ผมคิดว่าเจตนาไม่มีอะไร ผมจึงไม่ได้ฟ้อง แต่ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วยังไม่หยุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คงต้องไปจัดการให้มันเหมาะสม นี่ไม่ใช่คำขู่ แต่อย่าด้อยค่าข้าวของประเทศเลย ผมไม่คิดว่าจะต้องมาฟอกข้าวเน่าข้าวเสีย เพื่อมาขายให้ได้ราคาดี ถ้ามันเน่าจริงก็ต้องขายตามสภาพ จะขายเป็นปุ๋ยหรืออุตสาหกรรม ก็อยู่ที่ข้อเท็จจริง ซึ่งมันพิสูจน์ได้ไม่มีอะไรต้องปิดบัง”
นายภูมิธรรม ยังกล่าวต่อด้วยว่า เมื่อมีการประมูลต้องให้ผู้ที่ส่งออกเขามาพูดเองว่าจะเอาหรือไม่เอา หรือจะเอาไปทำอะไร ส่วนสารอะลูมิเนียมฟอสไฟด์ เป็นสารที่เขาใช้รมข้าว ไม่ใช่สารที่จะเอามาพูดกันให้เลอะเทอะ เป็นสารที่ยอมรับกันทั่วโลก ใครๆ ก็ใช้ไม่มีผลต่อชีวิตของผู้คน ส่วนสารอะฟลาท็อกซิน ที่เกาะติดอยู่กับรำข้าวและข้าวเปลือก หรือข้าวสาร จะต้องผ่านกระบวนการขัดสีและปรับคุณภาพข้าว ซึ่งก็จะหลุดออกไปเอง
“เราขายข้าวให้ได้ราคาดี เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรมันไม่ดีเหรอ ที่มาพูดกันเรื่อยเปื่อยใช้จินตนาการทั้งนั้น ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามเป็นการทำลายข้าวไทย คุณสะใจเหรอครับ เป็นการด้อยค่า คุณหมอวรงค์อยากทำแบบนี้เหรอครับ หรืออีกหลายๆ คน อยากทำแบบนี้หรอครับ มาจูงมือผมแล้วไปพิสูจน์ ถ้าไม่ใช่แล้วสามารถเข้าสู่กระบวนการได้ คุณต้องรับผิดชอบมากกว่านี้ ฉะนั้น ผมอยากให้ยุติได้แล้ว กระบวนการหลังจากนี้ไป ผมจะประกาศให้มีการประมูล และให้เข้าสู่กระบวนการจะไม่เกี่ยวกับผมแล้ว ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแต่ผมไปกินข้าวมาแล้ว ทั้งหมดอยู่ในสายตาของสื่อ ที่ทานน้อย เพราะมีโรคประจำตัว แต่ก็กินข้าวอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยทั้ง 2 จาน จะพิสูจน์อะไรอีก ยังมีปัญหาอะไรอีก ยังทำลายประเทศไทยไม่พอหรือ”
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า การส่งเข้าตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะเป็นกระบวนการที่จะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วในการประมูล แต่ถ้ามีปัญหามากจริงๆ คนก็ไม่ขัดข้อง หรือใครก็สามารถไปยื่นกับหน่วยงานต่างๆ ให้เข้าสู่กระบวนการที่มีมาตรฐานไม่ใช่นายโน่นนายนี้ มันไม่ใช่หน้าที่ ถ้ามีหน้าที่จริงคือไปยืนกระทรวง ตนจะไปดำเนินการให้ จะพาเขาไปเกาะเจาะข้าวในโกดัง ที่มีคนกล่าวหาว่าสร้าง Story เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการ
“ตนพร้อมทั้งหมด แต่ขอให้พูดกันตรงๆ อย่าเอาไปพูดเรื่อยเปื่อย พูดกันจนตอนนี้ศักดิ์ศรีข้าวไทยจะไม่เหลืออยู่แล้ว อยากจะให้ปิดเรื่องนี้สักทีตนมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก ตนต้องการที่จะปิดตำนานเรื่องนี้ ให้ไปในสิ่งที่ควรจะเป็น ใช้สมองคิดบ้างเปล่าครับ ที่พูดออกมา”
เมื่อถามว่า ตอนนี้มันเริ่มมีการลือในโซเชียลว่ามีข้าวเอาไปให้บริษัทนั้นบริษัทนี้ แจกพนักงาน นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ข้าวที่เอาออกมาจากโกดังมีเพียง 2 ถุง ที่เอาไปให้คุณกิตติ และ คุณสรยุทธ ที่เป็นสื่อจะได้ทานแล้วเข้าใจ ไม่ใช่ไปฟังจากคนอื่น ข้าวเป็นข้าวหลวงหากจะนำออกมาต้องมีกระบวนการ ความจริงแล้ว เอาออกมาก็ถือผิดกฎหมายทั้งนั้น แต่ตนไปกับเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงสามารถนำออกมาได้ เพื่อให้มีการพิสูจน์ทราบ แต่คนอื่นๆที่ไปเอาข้าวตรงนั้นตรงนี้ เอามาจากไหนก็ไม่รู้ จึงขอให้มาขออย่างเป็นทางการ ตนไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
นายภูมิธรรม ยังทิ้งท้ายได้ว่าตนไม่ได้โมโห แต่พูดจากอารมณ์และใจจริง ของมันขึ้น ตนรู้สึกมันน่าเบื่อหน่าย แทนที่จะมาช่วยกันให้มันขายได้ราคา ถ้าพิสูจน์ได้ว่ามันไม่เน่ามันจะไปกระทบกระเทือนใคร อยากรู้แค่นี้ หมอวรงค์หรือใครก็ตาม ออกมาปกป้องสิ่งที่เคยทำผิดไว้หรือเปล่าตนไม่ทราบ ตอนนี้ตนได้ให้ กรมการคลังสินค้า เตรียมการเปิดประมูลข้าวแล้ว ซึ่งเป็นการเปิดทั่วไปทั้งหมด ถ้าไม่มีคนมาประมูลเลยจริงๆ ค่อยมาว่ากัน หรือจะมาขอซื้อกันในราคา 5 บาท ตนก็โอเค ยินดีขายในราคา 5 บาท แต่ถ้าขายในราคา 10 กว่าบาทขึ้นไป หรือเป็นราคาที่ไม่ใช่ข้าวเน่าจะเป็นอย่างไร อย่าไปคิดว่าเขาจะเอาไปหลอกขายรัฐบาลแอฟริกา เพราะแอฟริกามีอะไรที่เจริญมากกว่าประเทศที่เจริญแล้ว หรือประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างไทย ไม่มีใครยอมจ่ายเงินแพงเพื่อซื้อข้าวเน่า