ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมผู้ประกอบการกลางคืนเมืองพัทยา โวยสื่อนอกตีข่าวเกินจริงเรื่องการขายบริการในเด็ก ระบุเกิดพื้นที่ในพัทยา ยืนยันตำรวจท้องที่ทำงานจริงจังแต่ผู้ก่อเหตุหนีศาล ซ้ำให้ข้อมูลบิดเบือน จี้ภาครัฐควรตรวจสอบป้องกันการดูหมิ่นประเทศไทย
จากกรณีที่มีสื่อมวลชนจากประเทศเยอรมนี ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ “การขายบริการเด็กในประเทศไทย” และยังระบุว่ามีผู้ต้องหาชาวเยอรมัน ถูกจับแต่เพราะยอมติดสินบนเป็นเงิน 1 ล้านบาท จึงสามารถหนีกลับประเทศได้ ซึ่งการนำเสนอข่าวดังกล่าวได้สร้างความเสียหายให้ประเทศไทยเป็นอย่างมากนั้น
ล่าสุด นางลิซ่า แฮมิลตัน นายกสมาคมผู้ประกอบการกลางคืนเมืองพัทยา ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการรวมกันตรวจสอบหาข้อเท็จจริงของตนเองและกลุุ่มผู้ประกอบการในเมืองพัทยาเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว ทำให้ทราบว่าชาวเยอรมันที่สำนักข่าวต่างประเทศเอ่ยถึง ได้จ่ายเงินจำนวน 1 ล้านบาทจริง แต่เป็นการจ่ายให้ทนายความของตัวเองเพื่อให้เดินเรื่องขอประกันตัวเพื่อเดินทางออกนอกประเทศ
โดยในชั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือพนักงานสอบสวนได้มีการคัดค้านการประกันตัวและนำตัวผู้ต้องหาชาวเยอรมันรายนี้ส่งฟ้องต่อศาลเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว
แต่ศาลได้พิจารณาว่า ผู้ต้องหามีที่พักเป็นหลักแหล่ง และมีธุรกิจอยู่ที่เมืองไทย รวมทั้งยังมีภรรยาเป็นชาวไทยและจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศด้วยเรื่องธุรกิจ จึงให้ปล่อยตัวชั่วคราวได้และให้วางเงินประกันตัวจำนวน 5 แสนบาท โดยกำหนดให้กลับมารายงานตัวในวันที่ 14 พ.ย.65 แต่ชาวต่างชาติรายนี้กลับหลบหนีไป
“ผู้ที่ได้รับชมสกู๊ปข่าวนี้จะเข้าใจผิดได้ว่า ตำรวจเป็นผู้ปล่อยตัวผู้ต้องหา ซึ่งคลิปวิดีโอนี้ส่งผลกระทบหลายด้านต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาและตำรวจท้องที่ อีกทั้งยังทำให้ตำรวจที่ปฏิบัติงานอย่างดีหมดกำลังใจ รวมทั้งภาพลักษณ์ของผู้ประกอบการกลางคืนก็เสียหายมากด้วย ซึ่งนำเสนอข่าวที่เกินกว่าความเป็นจริง ถือว่าไม่แฟร์กับเมืองพัทยา จึงอยากให้ภาครัฐตรวจสอบคดีนี้อย่างจริงจัง เพื่อปกป้องชื่อเสียงและชาติว่าไม่ควรนำเมืองไทยไปปู้ยี่ปู้ยำแบบนี้”
ขณะที่การดำเนินการกับร้านบาร์เบียร์ต้นเหตุและเป็นที่มาของการนำเสนอข่าวดังกล่าวของสื่อเยอรมนีนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้มีการสั่งปิดกิจการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.65
นางลิซ่า ยังเผยอีกว่า ที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการกลางคืนเมืองพัทยา ได้รณรงค์และป้องกันไม่ให้มีการค้ามนุษย์ในเด็กอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด และจะเร่งจัดทำคลิปวิดีโอสั้นเรื่องการค้ามนุษย์ และบทลงโทษ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ตามสื่อและช่องทางต่างๆ สร้างจิตสำนึกให้ผู้ประกอบการเกรงกลัวต่อกฎหมายและโทษของการค้ามนุษย์