บุรีรัมย์- “ขนมตดหมา” หรือภาษาเขมรพื้นถิ่นบุรีรัมย์เรียกว่า “เวือระพอม” กลับมาได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวอีกครั้ง สร้างรายได้ให้หมู่บ้านท่องเที่ยว“สนวนออก” หลังกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ยกให้เป็นเมนูอาหารพื้นถิ่น “1 จังหวัด 1 เมนูเชิดชูอาหารถิ่น” ปี 2566 ของ จ.บุรีรัมย์
วันนี้ ( 23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวจะพาไปรู้จักที่มาของ “ต้นตดหมา” พืชสมุนไพรที่นำมาเป็นส่วนผสมในการทำ “ขนมตดหมา” รวมถึงวิธีขั้นตอนการทำขนมตดหมาต้นตำรับ ที่บ้านสนวนนอก อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ปกติแล้วต้นตดหมา หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า “กระพังโหม” เป็นพืชไม้เลื้อย มีลำต้นและใบที่มีกลิ่นฉุน จึงเรียกกันว่า ตดหมา จะขึ้นเองตามรั้วบ้าน ป่าละเมาะ สมัยโบราณคนเฒ่าคนแก่จะนิยมนำใบไปใช้ทาบริเวณสะดือให้ลูกหลานที่มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ส่วนรากจะนำไปต้มรับประทานเป็นยาสมุนไพรแก้ความดัน เบาหวาน หรืออาหารท้องอืดด้วย
บางคนนำรากตดหมาไปต้มแล้วนำน้ำผสมในการทำขนมตดหมารับประทานในครัวเรือน เป็นขนมที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนเฒ่าคนแก่สมัยก่อน แต่พอยุคสมัยเปลี่ยนไปอาหารการกินและยารักษาโรคมีหลากหลายมากขึ้น รุ่นลูกหลานจึงไม่นิยมนำมาทำขนมหรือใช้รักษาอาการท้องอืดเหมือนเมื่อก่อน อีกทั้งกลิ่นของใบตดหมาที่ค่อนข้างฉุนจึงพากันกำจัดทิ้ง
กระทั่งหน่วยงานภาครัฐได้มีโครงการส่งเสริมหมู่บ้านสนวนนอก เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว จึงได้พลิกฟื้นขนมตดหมากลับมาอีกครั้ง จากนั้นชาวบ้านต่อยอดทำขายให้กับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือน และเคยเป็นขนมที่ใช้สำหรับต้อนรับนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเมื่อครั้งเดินทางมาเยือน จ.บุรีรัมย์ด้วย ปัจจุบันชาวบ้านจะอนุรักษ์ต้นตดหมาไว้ เพราะนักท่องเที่ยวที่มาเยือนนอกจากจะรับประทานขนมตดหมาแล้ว ก็ยังอยากเห็นต้นตดหมาด้วย
“ขนมตดหมา” หรือ “เวือระพอม” จะมีลักษณะหน้าตาคล้ายๆ กับขนมจาก แต่ขนมตดหมาห่อด้วยใบตองสด ข้างในจะมีส่วนผสมของแป้งข้าวเหนียว น้ำตาล มะพร้าวอ่อน กะทิสด เกลือ และที่ขาดไม่ได้คือน้ำต้มรากตดหมา คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พักไว้หนึ่งชั่วโมงเพื่อให้แป้งขึ้น แล้วจึงนำเนื้อขนมมาใส่ใบตองห่อในขนาดที่พอเหมาะเป็นชิ้นยาวๆ นำไปย่างบนเตาไฟให้สุก เมื่อแกะออกมาดูจะพบว่าเนื้อแป้งมีความแห้งเกรียม กลิ่นหอม รสชาติหวานมันอร่อยกลอมกล่อม
ปัจจุบันนอกจากชาวบ้านสนวนนอกจะทำขายแล้ว ก็จะมีชาวบ้านในหมู่บ้านอื่นทำขายด้วยเช่นกัน บางคนก็นำไปประยุกต์ใส่ใบเตยเพื่อเพิ่มความหอมด้วย ปัจจุบันนอกจากจะมีขายที่บ้านสนวนนอกแล้ว ก็มีขายตามงานโอทอป ถนนคนเดินด้วยในราคาเพียงชิ้นละ 5 บาทเท่านั้น
นางพงศ์ศรี แก้วพรม อายุ 57 ปี ผู้จัดการท่องเที่ยวชุมชนบ้านสนวนนอก บอกว่า “เครือตดหมา หรือเวือระพอม” เป็นพืชไม้เลื้อยชนิดหนึ่งบางพื้นที่จะเรียกว่า ต้นกระพังโหม ขึ้นได้ทั่วไปในป่า และรั้วบ้าน หากนำต้นหรือใบมาขยี้แล้วลองดมจะมีกลิ่นเหม็น แต่ถึงแม้กลิ่นจะไม่น่าพิสมัย แต่ถือเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งเป็นยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ กลิ่นเหม็นๆ นั้นยังช่วยระบายความร้อนในร่างกาย ช่วยขับลม ช่วยย่อยอาหารด้วย ซึ่งคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านจะนำมาเป็นส่วนผสมในการทำขนมตดหมาด้วย ปัจจุบันมีการทำขายและอนุรักษ์ต้นตดหมายเอาไว้ด้วย ทั้งนี้ขนมตดหมายังสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่ทำขายด้วย
ด้านป้าระเบียบ มาตรคำจันทร์ อายุ 67 ปี ชาวชุมชนบุลำดวน อ.เมืองบุรีรัมย์ บอกว่า ส่วนตัวรู้ถึงสรรพคุณของต้นตดหมาอยู่แล้ว ว่าเป็นพืชสมุนไพรที่สามารถนำใบไปขยี้แล้วทางบริเวณท้องเพื่อแก้อาหารท้องอืดท้องเฟ้อ ทั้งยังนำรากไปต้มดื่มแก้โรคต่างๆ ได้อีกด้วยก็มีประโยชน์หลายอย่าง แล้วเมื่อนำมาทำขนมยังช่วยย่อยได้อีกด้วย เพราะขนมตดหมามีส่วนผสมของแป้งข้าวเหนียว เคยกินมาตั้งแต่เด็ก ก็ดีใจที่ชาวบ้านยังอนุรักษ์ภูมิปัญญาขนมพื้นถิ่นเอาไว้ หากใครอยากรับประทานขนมตดหมาต้นตำรับก็สามารถไปอุดหนุนกันได้ที่บ้านสนวนนอก