xs
xsm
sm
md
lg

ยก "แกงกะลากรุบหมูย่าง" เป็นอาหารถิ่นประจำจังหวัด 1 เมนู 1 จังหวัดราชบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราชบุรี - ราชบุรียก “แกงกะลากรุบหมูย่าง กินคู่กับปลานิลแดดเดียว” เมนูพื้นถิ่นชาวเขมรลาวเดิม ที่ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี เป็นอาหารพื้นถิ่นลำดับที่ 46 ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ชูแกงกะลากรุบเป็นอาหารถิ่นประจำจังหวัดราชบุรี “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น พ.ศ.2566”

จากกรณีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่เปิดให้ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไปร่วมส่งเมนูอาหารท้องถิ่นในจังหวัดของตนเข้ารับการคัดเลือกในหัวข้อ “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste” เพื่อรับโล่รางวัลและเกียรติบัตรจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นจากเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยอาหารทั้งหมดจะมี 77เมนู จาก 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร มีเกณฑ์การคัดเลือกจากอาหารไทยท้องถิ่น หรืออาหารพื้นบ้านทั้งคาวและหวานที่หารับประทานได้ยาก

โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ร่วมกับสภาวัฒนธรรมจังหวัด คัดเลือกจังหวัดละ 3 เมนู และกลุ่มส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมคัดเลือกอีก 3 เมนู ก่อนจะรวบรวมทั้งหมดแล้วนำส่งให้ “กรมส่งเสริมวัฒนธรรม” คัดเลือกให้เหลือเพียงเมนูเดียวเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดโดย จังหวัดราชบุรีได้รับคัดเลือกเป็นอาหารพื้นถิ่นลำดับที่ 46 ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่ได้ชู “แกงกะลากรุบ” เป็นอาหารถิ่นประจำจังหวัดราชบุรี สร้างความฮือฮา และคำถามจากชาวจังหวัดราชบุรีเป็นอย่างมาก เนื่องจากหลายคนยังไม่รู้จักหรือคุ้นหูกับเมนูดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวจึงพาไปรู้จัก และชิมเมนูเด็ด “แกงกะลากรุบหมูย่าง กินคู่กับปลานิลแดดเดียว” เมนูพื้นถิ่นชาวเขมรลาวเดิม ที่ร้านอาหารเจ๊หน่าคาเฟ่ Je’nha cafe บ้านสวนส้มทิพย์รีสอร์ท อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นร้านอาหารบรรยากาศแบบไทยๆ

นายธิติพัทธ์ พลอยหิน เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า ตนต้องถือโอกาสขอบคุณทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรงวัฒนธรรม ที่ได้ประกาศชูเมนู “แกงกะลากรุบ” เป็นอาหารพื้นที่ประจำจังหวัดราชบุรี ซึ่งเมนูนี้ที่ร้านขายมานานมาก เนื่องจากคุณแม่เป็นผู้ทำและสืบทอดมาจากเมนูชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่ อีกทั้งอำเภอวัดเพลง มีชนชาติพันธ์ชาวเขมรลาวเดิม และยังมีการปลูกมะพร้าวน้ำหอมจำนวนมาก ต้องย้อนกลับไปช่วงเปิดร้านแรกๆ บริเวณรั้วบ้านมีการปลูกต้นมะพร้าวเพื่อทำแนวกำแพง ซึ่งต้นมะพร้าวได้ออกลูกมะพร้าวลูกเล็กๆ จึงนำมาผ่าและขอดกะลาเนื้ออ่อนซึ่งมีความกรุบรสชาติจะฝาดๆ นำมาแกงกับหมูตามสูตรที่สืบทอดกันมา รสชาติของนำแกงจะออกหอมหวาน เมื่อกินเนื้อกะลาอ่อนจะออกกรุบๆ ตนเองได้กินยังรู้สึกติดใจในรสชาติ

ปัจจุบันจึงนำมากินควบคู่กับเนื้อปลานิลแดดเดียว ซึ่งเป็นสินค้าชุมชนที่ตำบลเกาะศาลพระ อำเภอวัดเพลง ได้รสชาติอร่อยเพิ่มขึ้น ส่วนรสชาติของแกงกะลากรุบหมูย่าง จะได้รสชาติออกหวาน ส่วนเนื้อปลานิลแดดเดียวจะได้รสชาติมันและติดเค็มเล็กน้อย

สำหรับวิธีทำของ “แกงกะลากรุบหมูย่าง ปลานิลแดดเดียว” ใช้ส่วนผสมเครื่องปรุงสูตรของทางร้าน วิธีทำไม่ยุ่งยาก ใช้มะพร้าวอ่อน 1 ลูก ผ่าเป็นซีกใช้ช้อนขอดเอากะลาอ่อนแช่ในน้ำเกลือ จากนั้นตั้งหม้อเทน้ำสะอาดตั้งจนเดือด ใส่น้ำมะนาว นำกะลาอ่อนลงไปคนให้เข้าที่ นำขึ้นมาน็อกในน้ำเย็นเพื่อให้เนื้อกะลามะพร้าวกรอบ ลำดับต่อมาคือการปรุงส่วนเครื่องแกงตามสูตรของทางร้านเมื่อได้ที่ให้ใส่ พริกหวาน ใบโหระพา ใบมะกรูด และเนื้อหมูย่างติดมัน คนจนได้ที่จึงนำกะลามะพร้าวใส่ลงไปคนจนเข้าที่ใส่ใบโหระพา คลุกเคล้าได้ที่แล้วเทใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟคู่กับเนื้อปลานิลแดดเดียว อร่อยจนลืมไม่ลงแน่นอน









กำลังโหลดความคิดเห็น