xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านราชบุรีเดือดร้อนโดนภัยแล้งช่วงฤดูฝน ฝนไม่ตกกว่า 2 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราชบุรี - ชาวบ้านกว่า 2,000 หลังคาเรือน เดือดร้อนโดนภัยแล้งช่วงฤดูฝนเล่นงานยาวกว่า 2 เดือน ฝนไม่ตก ทำให้ชาวบ้านไม่มีน้ำใช้อุปโภคบริโภค อีกทั้งด้านการเกษตรเสียหายจำนวนมาก              

วันนี้ (2 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกกลุ่มรักนกเงือกบ้านบางกระท่า แจ้งว่า ที่เขาหินแผ่น ป่าเบญจพรรณ เขตอุทยานแห่งชาติไทยประจัน ป่ามรดกโลก อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดภัยแล้งและไม่มีฝนตกในพื้นที่เป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เข้าฤดูฝน ทำให้ต้นใบบริเวณเขาหินแผ่นเริ่มเหี่ยวเฉา มีสีเหลือง และเตรียมยืนต้นตาย 

จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งระหว่างทางที่เดินทางขึ้นเขาจะพบกับความแห้งแล้งตลอดเส้นทาง ใบไม้ใบหญ้าเริ่มเหี่ยวเฉา ตลอดระยะทางกว่า 2 กิโลเมตรจนถึงยอดเขา

นอกจากนี้ ยังพบการตัดไม้ทั้งสองข้างทาง และมีการบุกรุกขึ้นไปทำบ้านพักรีสอร์ตบนยอดเขา และจากการตรวจสอบผ่านโดรน พบว่าต้นไม้เริ่มร่วงเหี่ยวเฉาเป็นวงกว้างกินบริเวณยอดเทือกเขา และกำลังแผ่วงกว้างออกไปเรื่อยๆ ซึ่งโดยปกติจะพบในช่วงฤดูแล้ง แต่ตอนนี้ยังเป็นช่วงฤดูฝนอยู่ 

ทั้งนี้ ถ้าไม่มีฝนตกลงมาอย่างเพียงพออาจจะส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในบริเวณดังกล่าว ทั้งสัตว์ป่า และชาวบ้านจะได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งอาจจะเกิดภัยแล้งเร็วขึ้นและยาวนานขึ้นไปจนถึงปี 2567 

จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบันไม่เคยพบเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
 
ต่อมา ทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อนายชูศิลป์ ชีช่วง อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 บ้านโป่งกระทิง ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี เพื่อไปตรวจสอบปัญหาภัยแล้งหลังน้ำประปาหมู่บ้าน หมู่ที่ 9 ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี หลังประสบปัญหาไม่มีน้ำประปาใช้กว่า 2 เดือน โดยมีนายศุภโชติ บุญยงค์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.บ้านบึง และนายชัยวัฒน์ ดิษฐ์เหมาะ ส.อบต.ม.9 ต.บ้านบึง จากการตรวจสอบพบว่าทางหมู่บ้านมีบ่อน้ำ 2 บ่อ แต่ไม่มีน้ำเพียงพอจะสูบเข้าไปใช้ในระบบน้ำประปาเนื่องจากเป็นบ่อน้ำซับผิวดิน และไม่มีฝนตก ทำให้ชาวบ้านไม่มีน้ำประปาใช้อุปโภคบริโภค อีกทั้งด้านการเกษตรส่งผลตามมาด้วย 

ตนต้องประสานไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอสนับสนุนรถบรรทุกน้ำให้หมู่บ้าน เพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้นไปก่อน แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
                   
นายชูศิลป์ ชีช่วง กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นบ่อพักน้ำที่ใช้ในประปาหมู่บ้าน แต่ไม่ได้ใช้มา 2 เดือนแล้วเพราะเกิดปัญหาภัยแล้งทั้งที่อยู่ในช่วงฤดูฝน ตอนนี้ทำได้เพียงขอประสานหน่วยงานในจังหวัดนำน้ำไปส่งตามหมู่บ้านเพื่อแก้ปัญหาไปก่อน ซึ่งตอนนี้เข้าสู่ขั้นวิกฤต ลามไปถึงด้านการเกษตรทำให้ผลผลิตไม่เจริญเติบโต 

สิ่งที่เร่งด่วนตอนนี้คือ อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำการสำรวจและเจาะน้ำบาดาลเพื่อให้มีน้ำใช้เหมือนเดิม โดยเหตุการณ์ภัยแล้งในช่วงฤดูฝนไม่เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาก่อน ปกติพื้นที่จะเขียวชะอุ่มทั่วพื้นที่ และปัญหาไฟป่าจะเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิม           

จากการตรวจสอบบริเวณแปลงข้าวไร่ของชาวกะเหรี่ยง พบว่าต้นข้าวเริ่มยืนต้นตายบางส่วนเหี่ยวเฉาเพราะขาดน้ำ และอาจทำให้ไม่สามารถเก็บผลผลิตได้หากยังประสบปัญหาแบบนี้อยู่ ทั้งนี้ไม่มีปริมาณน้ำเพียงพอ ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ขาดน้ำส่งผลให้ต้นไม้ในพื้นที่ป่าบริเวณดังกล่าวแห้งแล้ง มีสีเหลือง ใกล้ยืนต้นตาย เป็นระยะเวลาถึง 2 เดือน  ซึ่งป่าบริเวณดังกล่าวมีเลียงผา (สัตว์ป่าสงวน) อาศัยอยู่ และสัตว์ป่าอื่นๆ ด้วย และถ้าไม่มีฝนตกลงมาจะทำให้สัตว์ป่าลงไปรบกวนชาวบ้านตามหมู่บ้าน  ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ในรอบ 50 ปี ที่เกิดภัยแล้งในช่วงหน้าฝน และจะส่งผลให้เกิดภัยแล้งเร็วขึ้นและยาวนานขึ้นในเขตพื้นที่ อ.บ้านคา










กำลังโหลดความคิดเห็น