เมียวดี/ตาก - เผยบ่อนใหญ่ทุนยักษ์ริมฝั่งน้ำเมย เมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง เมียนมา..ยังให้บริการ-เปิดไฟสว่างไสวทุกคืน แม้โดน กฟภ.สั่งระงับจ่ายกระแสไฟข้ามแดนมาตั้งแต่หลังเที่ยงคืน 5 มิ.ย. ระบบการค้า-คนข้ามแดนยังเป็นปกติทุกช่องทาง มีแต่ชาวบ้านที่เดือดร้อนหนัก เครื่องปั่นไฟ-น้ำแข็ง ขายกันสนั่นจนขาดตลาดแม่สอด
สภาพตัวเมืองเมียวดี - เมืองใหม่ทุนจีนวดี หรือฉ่วยโก๊กโก่ รัฐกะเหรี่ยง เมียนมา โดยเฉพาะตัวอาคารขนาดใหญ่-โรงแรม ร้านค้า รวมถึงบ่อนพนันตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำเมย ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ยังคงให้บริการและเปิดไฟสว่างไสวได้ตลอดทั้งคืน แม้ กฟภ.จะสั่งระงับการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้บริษัทเอกชน ซึ่งได้รับสัมปทานจากรัฐบาลเมียนมา ให้ดำเนินการซื้อขาย-ควบคุมกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง มาตั้งแต่ 24.00 น. 5 มิ.ย. 66 เป็นต้นมาแล้วก็ตาม
บริเวณด่านพรมแดนไทย-เมียนมา (แม่สอด-เมียวดี ) อ.แม่สอด ที่มีสะพานมิตรภาพไทยแห่งที่ 1 เชื่อมสองประเทศ ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถข้ามไปมาได้ พ่อค้าแม่ค้าชาวเมียนมาก็มาขายสินค้าที่ด่านชายแดน และขายอยู่ใต้สะพานที่มีรั้วลวดหนาวกั้นไว้กันเป็นปกติ
เช่นเดียวกับสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ที่ยังคงเปิดให้รถบรรทุกสินค้าผ่านแดนเข้าออกส่งสินค้าเป็นปกติทุกวัน ไม่ได้ปิดลงตามคำขู่ของกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ BGF
ร.ต.ธงชัย มณีศร บุตรเขยพ่อเลี้ยงคำ และเจ้าของท่าข้าม 23 (พัทยาวังแก้ว) บ้านวังแก้ว ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ชายแดนไทย-เมียนมา เมืองใหม่ฉ่วยโก๊กโก่ เปิดเผยว่า หลังจากที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ของไทย ระงับการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้เมียนมา ตั้งแต่เวลา 24.00 น. วันที่ 5 มิ.ย. 66 ไม่มีผลกระทบต่อกระบวนการขนส่งสินค้าทางเรือ หรือโป๊ะ จากท่าข้ามธรรมชาติต่างๆ ในชายแดน อ.แม่สอด
“โซนที่เป็นเมืองใหม่ของชาวจีนดูแล้วไม่มีผลกระทบอะไรเลย เพราะมีศักยภาพเรื่องทุน รวมทั้งเตรียมเครื่องสำรองไฟฟ้าไว้ใช้ในแต่ละตึกป้องกันไฟตกไฟดับอยู่ก่อนแล้ว เมื่อไทยเราหยุดส่งไฟฟ้าไป เขาก็ใช้เครื่องปั่นไฟใช้เป็นพลังงานหลักไปเลย และเมื่อมองจากฝั่งไทยก็พบว่าเขาก็ยังเปิดไฟตามตึกต่างๆ ตามปกติ ไม่มีการลดแสงไฟใดๆ เปิดไฟ LED ทุกคืน ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แทบจะมองไม่ออกเลย แต่ในระยะยาวก็ไม่ทราบว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เมื่อไหร่"
เจ้าของผู้ดูแลท่าข้ามธรรมชาติ 23 ริมฝั่งน้ำเมย กล่าวต่อว่า แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนคนเล็กคนน้อยในฝั่งเมียนมาแน่นอน อย่างน้อยๆ มือถือที่จำเป็นสำหรับทุกคนจะต้องชาร์จแบตฯ จากไฟฟ้า มีผลกระทบเรื่องการถนอมอาหารสด จากที่เคยแช่ในตู้เย็นที่ใช้ไฟฟ้า ก็ต้องเปลี่ยนมาแช่ในน้ำแข็งแทน จึงสั่งซื้อน้ำแข็งกั๊กจากไทยไปจำนวนมาก
และสินค้าที่ชาวเมียนมาต้องการมากขณะนี้ก็คือ เครื่องปั่นไฟ ซึ่งพบว่า ชาวเมียนมาครอบครัวที่มีฐานะดีก็จะซื้อเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่ไว้ประจำบ้าน ส่วนครอบครัวไหนที่ยากจน ก็จะลงขันกันซื้อแล้วแบ่งปั่นไฟฟ้าให้เพื่อนบ้านหลายๆ ครอบครัวใช้ร่วมกันก็มี จนทำให้เครื่องปั่นไฟในตลาดแม่สอดขาดตลาดแล้ว ต้องสั่งมาจากจังหวัดอื่นๆ และรอสินค้ากันหลายวันเพราะต้องทำเอกสารชิปปิ้งส่งขายให้ถูกต้อง