เชียงใหม่/เชียงราย - ชุดสืบสวนรวบคาสำนักงานตำรวจภาค 5..สองสาวลำพูนปลอมตัว-ปลอมบัตร ร่วมหลอกเช่ารถเชียงราย ก่อนแก้จีพีเอส ส่งขายผ่านชายแดนแม่สอด-แม่ฮ่องสอน พบทำเป็นขบวนการ-ตระเวนตุ๋นทั่วภาคเหนือ พุ่งเป้ารถใหม่ ยี่ห้อดัง ป้ายแดง ราคาแพง
วันนี้ (30 พ.ค. 66) พ.ต.อ.เทคนิค จันสี ผกก.สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย พ.ต.ท.พิชิตชัย พุทธวงศ์ รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.รัฐพัฒน์ ยานะนวล รอง ผกก.สส.พ.ต.ต.วีรวุฒิ พุ่มไพรจิตร สวป. พ.ต.ท.สรัญญู บุรีแก้ว สว.สส.สภ.บ้านดู่ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว น.ส.ศรัญยา (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี และ น.ส.สุชาดา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นคนอื่น" และ "ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม"
ทั้งนี้ หญิงสาวชาวลำพูนถูกจับกุม หลังผู้ประกอบกิจการรถเช่าพื้นที่ อ.เมืองเชียงรายแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่ามีผู้เข้าไปเช่ารถแล้วไม่นำส่งคืน เมื่อตรวจสอบเอกสารบุคคลที่ไปเช่าแล้วพบเป็นของปลอม และเมื่อตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งหรือจีพีเอสของรถก็พบว่ายังอยู่ในพื้นที่ที่เช่า แต่พอไปดู ณ ตำแหน่งดังกล่าวกลับไม่พบรถ ต่อมาทราบว่ารถถูกลักลอบส่งออกทางชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก และชายแดนแม่ฮ่องสอนไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมหลักฐานและภาพถ่ายผู้เช่ารถ จนทราบตัวบุคคลและขออนุมัติศาล จ.เชียงราย ออกหมายจับ น.ส.ศรัญยา เลขที่ 148/2566 ลงวันที่ 25 พ.ค. 2566 และ น.ส.สุชาดา เลขที่ 149/2566 ลงวันที่ 25 พ.ค. 2566
กระทั่งต่อมา พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 สืบทราบว่าทั้ง 2 คนได้เดินทางไปติดต่อราชการที่ ภ.5 พื้นที่ จ.เชียงใหม่ พอดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.5 จึงได้แสดงตัวและแจ้งข้อหาพร้อมหมายจับให้ทราบจากนั้นนำตัวทั้งคู่ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดู่ ดำเนินคดี
ซึ่งตามข้อมูลการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าขบวนการโจรกรรมรถส่งออกรายนี้ทำงานกันเป็นเครือข่าย โดยจะให้ผู้เช่ารถเปลี่ยนรูปพรรณสัณฐานซึ่งกรณีนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ต้องหาสวมวิกผม-สวมแว่นตาและหน้ากากอนามัย จากนั้นได้ใช้เอกสารปลอมเข้าไปเช่ารถเอง
เจ้าหน้าที่ระบุว่าในพื้นที่ภาคเหนือมีรถถูกโจรกรรมในลักษณะนี้แล้วไม่ต่ำกว่า 10 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถใหม่ ป้ายแดง ยี่ห้อดังและมีราคาแพง หลังจากเช่าออกจากร้านไปแล้วกลุ่มขบวนการจะใช้เครื่องมือเสียบสายยูเอสบีต่อเข้ากับอุปกรณ์จีพีเอสเพื่อให้แจ้งตำแหน่งรถว่ายังอยู่ในพื้นที่ที่ผู้เช่ากำหนด จากนั้นนำรถไปลักลอบส่งออกที่ชายแดน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงฝากเตือนผู้ประกอบการให้ตรวจหลักฐานอย่างละเอียด ถ่ายภาพผู้เช่าโดยไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหมวกคู่กับรถเพื่อเป็นหลักฐาน และหากผู้เสียหายรายอื่นมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้ติดต่อที่ สภ.บ้านดู่ได้