พะเยา - ตำรวจดอกคำใต้ล่าหนุ่มมีประวัติติดยาเสพติดจนมีอาการทางประสาท เกิดคลั่งคว้ามีดบุกแทงเพื่อนบ้านตาย 1 สาหัสอีก 1 ก่อนวิ่งกลับบ้านควบกระบะพ่อที่จอดฝากไว้หลบหนี พอจวนตัวทิ้งรถยนต์คว้า จยย.ญาติขี่หนีต่ออีก
วันนี้ (31 พ.ค. 66) ร.ต.อ.ชาติสิริ จี๋คำวัน รอง สว.(สอบสวน) สภ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธมีดแทงกันจนถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ ที่บ้านเลขที่ 197 หมู่ 6 บ้านปินเหนือ ต.บ้านปิน อ.ดอกคำใต้ จึงเร่งเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.โกศัย เทพวงศ์ ผกก.พ.ต.ท.ชนะ ศรีชัย รอง ผกก.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ดอกคำใต้
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านไม้ยกสูง พบสองพี่น้อง ทราบชื่อต่อมาคือ นายไปรวิทย์ พิจิตร อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197 หมู่ 6 ต.บ้านปิน อ.ดอกคำใต้ และนายอัครพล พิจิตร อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นน้องชาย ถูกนายไพรัตน์ เผ่าต๊ะใจ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 ใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทง
สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าขณะนายไปรวิทย์กำลังนั่งรับประทานอาหารบนบ้าน นายไพรัตน์ ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาหาบนบ้านและใช้อาวุธมีดแทงเข้าบริเวณชายโครงด้านขวา 2 แผล จนบาดเจ็บสาหัสและญาติรีบนำส่ง รพ.ดอกคำใต้ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่นายอัครพล ซึ่งนอนเล่นในเปลอยู่ใต้ถุนบ้าน ได้วิ่งขึ้นไปช่วยพี่ชาย ก็ถูกนายไพรัตน์แทงเข้าตามตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส จนญาติและเพื่อนบ้านมาช่วยเหลือนำส่ง รพ.ดอกคำใต้
หลังเกิดเหตุ นายไพรัตน์ (น้อย) เผ่าต๊ะใจ มือมีดได้วิ่งกลับบ้านแล้วขับรถยนต์ กระบะ Toyota สีเทา ทะเบียน บน 514 พะเยา ที่พ่อนำมาจอดฝากไว้ในบ้าน หลบหนี ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ได้สกัดไล่จับกุมแต่นายไพรัตน์จอดรถแล้ววิ่งหนีไปเอารถจักรยานยนต์ของญาติขับขี่หนีไปตามถนนในหมู่บ้าน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังไล่ล่าตามจับทันที
นางศรี เผ่าแสง ผญบ.ม.4 บ้านปินเหนือ ต.ปิน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา กล่าวว่า นายไพรัตน์ หรือน้อย มีพฤติการณ์เกี่ยวข้อง กับยาเสพติด และมักจะเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายคนในครอบครัว และเคยไปรับการรักษาอาการโรคประสาทที่ รพ.ด้วย ก่อนเกิดเหตุได้ใช้ไม้ทุบรถจักรยานยนต์ของตัวเองในบ้านจนเสียหาย
นายป้อม เผ่าต๊ะใจ อายุ 70 ปี บ้านเลขที่ 16 หมู่ 6 บ้านปินม่อนผาคำ บิดานายไพรัตน์ มือมีดกล่าวว่า ลูกชายเป็นคนสติไม่ดีเพราะเสพยาเสพติดจนเป็นโรคประสาท เกิดอาการคลุ้มคลั่ง และมักจะเก็บก้อนหิน สายไฟและอื่นๆ มาไว้บอกว่าเป็นทองคำ ก่อนเกิดเหตุได้ทำลายรถจักรยานยนต์ที่จอดในบ้านจนเสียหาย และได้ไปก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงเพื่อนบ้านจนตายและเจ็บ แล้วขับรถยนต์ของตนที่จอดฝากไว้ในบ้านหลบหนี จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่จับกุม
นางแสงเดือน นาคจูง น้าผู้ก่อเหตุ เล่าว่าปกตินายไพรัตน์ หรือน้อย มีประวัติติดยาเสพติด และมีอาการคลุ้มคลั่ง ชอบขว้างมีด ขว้างขวด ใส่บ้านชาวบ้านด้วย ก่อนเกิดเหตุสลดนายไพรัตน์กับผู้เสียชีวิต ต่างมาช่วยงานศพบ้านใกล้เคียง หลังจากนั้นผู้ตายได้ไปกินข้าวตรงข้ามบ้านผู้ก่อเหตุ เป็นจังหวะที่เขามีอาการคลุ้มคลั่งจึงถือมีดเดินขึ้นไปหาแล้วแทงผู้เสียชีวิตภายในบ้าน พอน้องชายผู้ตายที่นอนอยู่ใต้ถุนบ้านขึ้นมาช่วยก็ถูกแทงได้รับบาดเจ็บอีก