เชียงใหม่ - ชาวบ้านเชียงใหม่สุดทนเผชิญฝุ่นควันพิษรุนแรงต่อเนื่องนับเดือนจนส่งผลกระทบสุขภาพ ยอมควักเงินติดตั้งอุปกรณ์และจ่ายค่าน้ำประปาฉีดพ่นละอองน้ำรอบบ้าน เพิ่มความชุ่มชื้นบรรเทาความเดือดร้อน วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้มงวดจริงจังคลี่คลายปัญหาให้ได้โดยเร็ว
วันนี้ (9 มี.ค. 66) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า จากสถานการณ์ปัญหาฝุ่นควันและมลพิษอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ที่รุนแรงต่อเนื่องมานานหลายสัปดาห์ โดยฝุ่นควันที่ปกคลุมทั่วทั้งเมืองอยู่ตลอดวัน พร้อมกับกลิ่นเหม็นไหม้ที่โชยมาด้วย ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนอกจากการสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อดูแลป้องกันสุขภาพของตัวเองแล้ว พบว่าขณะนี้ประชาชนจำนวนมากจำยอมที่จะต้องเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณบ้านอยู่อาศัยและอาคารเพื่อช่วยเหลือตัวเองในการบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์และลดความเสี่ยงในการสูดฝุ่นควัน PM 2.5 เข้าสู่ร่างกาย
ทั้งนี้ นางนงลักษณ์ อิสระภาพ ชาวบ้านในตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในประชาชนจำนวนมากที่ยอมเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวทำการติดตั้งอุปกรณ์ฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณบ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์มลพิษอากาศที่รุนแรงต่อเนื่องมานานนับเดือนแล้วจนทนไม่ไหว โดยนางนงลักษณ์เปิดเผยว่า ที่บ้านของตัวเองเปิดเป็นร้านขายของชำในชุมชน ทำให้มีความจำเป็นต้องเปิดบ้านตลอด ซึ่งในช่วงแรกที่เริ่มมีสถานการณ์ปัญหาฝุ่นควันนั้นยังไม่รู้สึกอย่างชัดเจนว่าเกิดผลกระทบต่อสุขภาพมากนัก อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่รุนแรงต่อเนื่อง เริ่มมีอาการต่างๆ อย่างชัดเจน ทั้งแสบตา แสบจมูก และแสบคอ จนทนไม่ไหว
นางนงลักษณ์บอกว่า เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงตัดสินใจช่วยเหลือตัวเองด้วยการลงทุนซื้ออุปกรณ์ทั้งท่อประปาและหัวฉีดพ่นละอองน้ำ พร้อมจ้างช่างที่เป็นคนในชุมชนทำการติดตั้งอุปกรณ์ฉีดพ่นละอองน้ำบนหลังคาบ้านด้วยการต่อเข้ากับระบบน้ำประปาของบ้าน แล้วเปิดทำการฉีดพ่นละอองน้ำวันละหลายชั่วโมงเพื่อสร้างความชุ่มชื้นในอากาศช่วยบรรเทาปริมาณฝุ่นควันบริเวณรอบบ้านและใกล้เคียง ซึ่งเบื้องต้นได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ทราบว่าเมื่อถึงสิ้นเดือนจะต้องจ่ายค่าน้ำประปาเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร ทั้งนี้ยอมรับว่าการติดตั้งอุปกรณ์ฉีดพ่นละอองน้ำดังกล่าวนี้เป็นเพียงการบรรเทาความเดือดร้อนลดผลกระทบและแก้ปัญหาเฉพาะที่ประชาชนหาทางออกด้วยตัวเองเท่านั้น ดังนั้นจึงวอนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดจริงจังในการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นควันให้คลี่คลายโดยเร็ว เพราะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนในพื้นที่