เชียงใหม่ - เชียงใหม่ฝุ่นควันยังหนาและค่ามลพิษอากาศสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานต่อเนื่อง ขณะที่แพทย์แนะวิธีคนเชียงใหม่ดูแลสุขภาพเพื่อรับมือและป้องกันตัวเองจากฝุ่นพิษ ย้ำหมั่นตรวจสอบคุณภาพอากาศและสวมใส่หน้ากากอนามัย เลี่ยงการทำกิจกรรมก่อมลพิษ พร้อมระบุยังไม่พบผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างผิดสังเกต
วันนี้ (8 มี.ค. 66) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ตลอดช่วงเช้าวันนี้ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันหนาทึบ พร้อมกับผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศที่เกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้อยู่ที่ 88 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 79 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 78 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 78 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 69 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 103 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 195, 172, 170, 170, 147 และ 213 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ซึ่งภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ด้านเว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 181 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 113.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อทุกคน โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศดังกล่าวถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 6 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก ทั้งนี้ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 เมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน ดัชนีคุณภาพอากาศ 211 US AQI, อันดับ 2 เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 195 US AQI และอันดับ 3 เมืองการาจี ประเทศปากีสถาน 188 US AQI
ขณะที่นายแพทย์ ปัณณวิช จันทกลาง หัวหน้ากลุ่มงานอาชีวเวชกรรมโรงพยาบาลนครพิงค์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่นควันและค่ามลพิษอากาศสูงเกินค่ามาตรฐานของจังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นยังไม่พบว่าจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นอย่างเป็นกลุ่มก้อนหรือผิดสังเกต และยังไม่ได้เพิ่มขึ้นจนเกินขีดความสามารถในการดูแล ทั้งนี้ แนะนำประชาชนว่าสามารถป้องกันตนเองจากมลพิษทางอากาศ หรือฝุ่นควัน PM 2.5 ได้ง่ายๆ เพียง 3 วิธี ได้แก่ อย่างแรกคือ รู้สี ด้วยการตรวจเช็กสภาพอากาศว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่ หากค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้มแดง หรือมีค่าเกิน 51-90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป ซึ่งถือว่าเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรหาทางป้องกันตนเอง
ต่อมาควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเองจากฝุ่น โดยสวมใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี และเลือกใช้หน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นได้สูงขึ้น หากเป็นหน้ากากอนามัยชนิด N95 แนะนำให้ใช้สำหรับผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวเท่านั้น และให้หลีกเลี่ยงการใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และควรใช้ในระยะเวลาที่ไม่นานจนเกินไป และสุดท้ายใส่ใจห้องปลอดฝุ่น คือ สร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้มีค่า PM 2.5 ที่ต่ำกว่าเกณฑ์ เพียงแค่ปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิด ทำความสะอาดฝุ่นละอองภายในบ้าน จัดหาเครื่องฟอกอากาศ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดฝุ่น เช่น การก่อฟืน การจุดธูปหรือเทียน เป็นต้น