เชียงใหม่ - ฝุ่นควันเชียงใหม่ยังหนักหนาทึบคลุมเมือง ค่ามลพิษอากาศติดอันดับโลกต่อเนื่อง เกินเกณฑ์มาตรฐานกระทบสุขภาพ รองผู้ว่าฯ ย้ำประชาชนงดเผาและสวมหน้ากากอนามัยป้องกันตัวเองจาก PM 2.5
วันนี้ (7 มี.ค. 66) รายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์ปัญหาฝุ่นควัน ไฟป่า และคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยสภาพตัวเมืองเชียงใหม่ตลอดช่วงเช้าวันนี้ถูกปกคลุมหนาทึบด้วยฝุ่นควันจนแทบมองไม่เห็นยอดดอยสุเทพจากระยะไกลได้ตามปกติ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดทางกายภาพที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงระดับความรุนแรงของปัญหาและคุณภาพอากาศ ขณะที่ศูนย์บัญชาการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ รายงานการตรวจหาจุดความร้อนประจำวันที่ 4 มี.ค. 66 รอบเช้า ว่า จังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อนทั้งสิ้น 23 จุด ประกอบด้วย ป่าอนุรักษ์ ในพื้นที่อำเภอดอยเต่า 12 จุด, อำเภอฮอด 4 จุด, อำเภอจอมทอง 1 จุด, อำเภอพร้าว 1 จุด, ป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่อำเภอแม่แตง 3 จุด, เขต ส.ป.ก.ในพื้นที่อำเภอแม่แตง 1 จุด และพื้นที่ชุมชนหรืออื่นๆ ในพื้นที่อำเภอแม่แตง 1 จุด
ทั้งนี้ รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้อยู่ที่ 90 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 74 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 77 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 91 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 74 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 113 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 200, 159, 167, 201, 159 และ 223 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ซึ่งภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ด้านเว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 171 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 94.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อทุกคน โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศดังกล่าวถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 7 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก ทั้งนี้ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน ดัชนีคุณภาพอากาศ 246 US AQI, อันดับ 2 เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน 190 US AQI และอันดับ 3 เมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน 182 US AQI
ขณะที่นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน คือสูงกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ออกนอกอาคาร หรือออกไปในพื้นที่กลางแจ้ง และควรจะใช้หน้ากากอนามัยชนิดที่ได้รับมาตรฐาน มีคุณภาพสูง และสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้ร่างกายสูดรับเอาฝุ่นละอองเข้าไปโดยตรง และที่สำคัญ ขอความร่วมมือประชาชนถึง “การงดเผา” ในช่วงนี้อีกด้วย