เชียงใหม่ - ชาวบ้านเชียงใหม่โวยโรงปลูกกัญชาก่อความเดือดร้อนหนักทั้งหมู่บ้าน ผุดกลางย่านที่อยู่อาศัยประชิดรั้วบ้านพัก ติดตั้งพัดลมระบายอากาศพ่นใส่ทั้งวันทั้งคืน ส่งกลิ่นเหม็นกระจายรัศมีเป็นร้อยเมตรจนต้องปิดประตูหน้าต่างอยู่แต่ในบ้าน บางรายหนักถึงขั้นล้มป่วยหามส่งโรงพยาบาล แถมมีอาการหลอนจนเสียสุขภาพจิต เบื้องต้นร้องเทศบาลฯ ตรวจสอบแล้วแต่ยังมีปัญหา จ่อยื่นศูนย์ดำรงธรรม
วันนี้ (18 ก.พ. 66) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า พบผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “กมลาภา เอี่ยมสรรพางค์” โพสต์ระบายความรู้สึกที่ตัวเองและเพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการที่มีผู้ประกอบการรายหนึ่งเข้ามาตั้งโรงเรือนปลูกกัญชาจำนวนหลายหลังอยู่ติดกับบ้านตัวเองและชุมชนบ้านพักอาศัย โดยที่โรงเรือนดังกล่าวมีการติดตั้งพัดลมระบายอากาศ ซึ่งพัดพานำกลิ่นของต้นกัญชาพุ่งตรงเข้าสู่บ้านผู้โพสต์ รวมทั้งฟุ้งกระจายไปทั้งหมู่บ้านทำให้ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นดังกล่าวเป็นวงกว้างรัศมีเป็น 100 เมตร เกือบทุกวันต่อเนื่องมานานหลายเดือนแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนของบ้านผู้โพสต์ที่อยู่ติดกัน แม้จะมีรั้วกั้น แต่กลิ่นเหม็นรุนแรงมากจนทำให้ลูกสาวที่อยู่ในบ้านมีอาการเวียนศีรษะอย่างรุนแรงและอาเจียนอย่างหนักจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะที่ตัวเองที่อยู่ระหว่างการพักฟื้นหลังผ่าตัดภายในบ้านต้องได้รับความเดือดร้อนทุกข์ทนจากกลิ่นดังกล่าวทุกวัน ทำให้เสียสุขภาพจิตและหวั่นเกรงผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวด้วย ซึ่งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวและกลุ่มเจ้าของบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากโรงเรือนปลูกกัญชาดังกล่าวอยู่ในหมู่บ้านลานนาโฮม หมู่ที่ 5 ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยจากการสอบถามผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ พร้อมด้วยกลุ่มเจ้าของบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเปิดเผยว่า ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากโรงเรือนปลูกกัญชาดังกล่าวที่ตั้งอยู่ติดหมู่บ้าน และมีรั้วอยู่ติดกับบ้านของผู้ที่โพสต์เรื่องราวลงในเฟซบุ๊ก โดยโรงเรือนดังกล่าวมีการติดตั้งพัดลมระบายอากาศหันเข้าใส่บ้านผู้โพสต์ ซึ่งแม้จะมีการกั้นรั้วสูงขึ้นมาบัง แต่ลมยังคงพัดพาเอากลิ่นของต้นกัญชาเข้าใส่และฟุ้งกระจายอย่างรุนแรงไปทั่วหมู่บ้านและบริเวณโดยรอบเกือบตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงกลางคืน ทำให้แทบไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เดินเล่น หรือออกกำลังกายนอกบ้าน ได้ตามปกติ และต้องปิดประตูหน้าต่างบ้านไว้ตลอดเวลา เพราะรู้สึกเหม็นและมีอาการเวียนศีรษะคลื่นไส้ทุกครั้งที่ได้กลิ่นดังกล่าว
ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวระบุว่า บ้านของตัวเองน่าจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด เพราะรั้วอยู่ติดกับโรงเรือนที่ติดตั้งพัดลมระบายอากาศหันตรงเข้าใส่ ซึ่งแม้จะมีการติดตั้งรั้วสูงขึ้นไปแล้ว แต่ไม่สามารถสกัดกั้นลมและกลิ่นที่ถูกพัดพามาได้ โดยที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการที่ลูกสาวที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านมีอาการแพ้กลิ่นกัญชาอย่างรุนแรงทำให้เวียนศีรษะอย่างหนักจนล้มป่วยต้องเรียกรถพยาบาลมารับเพื่อส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และไม่กล้าที่จะกลับมาพักที่บ้านอีก ส่วนตัวเองอยู่ระหว่างการพักฟื้นหลังการผ่าตัดและต้องพักอาศัยอยู่ที่บ้านเพียงลำพังต้องเดือดร้อนอย่างมากเช่นกัน จากการที่ต้องทนทุกข์กับกลิ่นของต้นกัญชา ที่บางคนอาจจะชอบ แต่ตัวเองรู้สึกเหม็นมาก และทำให้เสียสุขภาพจิตอย่างหนักจนบางครั้งมีอาการหลอนด้วย ซึ่งเบื้องต้นได้มีการแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นให้ทางเทศบาลตำบลท่าศาลาทราบเรื่องแล้ว แต่ยังคงเกิดปัญหาอยู่
ขณะที่กลุ่มเจ้าของบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากโรงเรือนปลูกกัญชาเปิดเผยว่า ตลอดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากโรงเรือนดังกล่าวที่ปล่อยกลิ่นรุนแรงของกัญชาออกมาทางพัดลมระบายอากาศฟุ้งกระจายไปทั่วหมู่บ้าน ส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัย ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุที่ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิมจากปกติที่เคยออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน ทั้งเดินเล่นออกกำลังกายก็ต้องงดเว้นไปทั้งหมด นอกจากนี้ยังต้องปิดประตูหน้าต่างบ้านตลอดเวลาเพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นรบกวน ซึ่งหลายบ้านมีผู้ป่วยติดเตียงอยู่ด้วย ทั้งนี้หลายคนมีอาการแพ้กลิ่นดังกล่าวที่เมื่อได้กลิ่นแล้วมักจะมีอาการวิงเวียนศีรษะคลื่นไส้ทั้งๆ ที่ปกติสุขภาพแข็งแรงดี จึงเชื่อว่ากลิ่นดังกล่าวน่าจะมีผลต่อสุขภาพ โดยอยากเรียกร้องให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ซึ่งเบื้องต้นได้มีการแจ้งไปยังเทศบาลฯ ให้เข้ามาตรวจสอบเบื้องต้นแล้วและเตรียมที่จะรวบรวมรายชื่อผู้ประสบปัญหาเดือดร้อนเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป