เชียงใหม่ - พ่อแม่ร่ำไห้ขอความเป็นธรรม..หนุ่มเชียงใหม่วัยเบญจเพสถูกวัยรุ่นรุมสกรัมกลางงานสลากภัต บาดเจ็บสาหัส-ผ่าตัดสมอง 2 รอบ วันนี้กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผ่านไป 4 เดือนคู่กรณีบางส่วนบ่ายเบี่ยงไม่ยอมชดใช้ ร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ แล้วยังไม่คืบ
นางเรนู วิเตียนจม วัย 57 ปี ชาวบ้านใหม่สารภี ต.แม่สอย อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ แม่ของนายวรวิทย์ วิเตียนจม หรือแท่ง อายุ 25 ปี ต้องคอยเฝ้าดูแลลูกชายที่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงนานกว่า 4 เดือน หลังไปเที่ยวงานสลากภัตที่บ้านข่วงเปาใต้ ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา แล้วกลุ่มวัยรุ่น 8-9 คนรุมทำร้าย คาดว่าจะใช้ของแข็งตีเข้าที่ศีรษะก่อนที่จะรุมกระทืบจนสลบคาที่
เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลบ้านแปะได้เข้าช่วยเหลือนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลจอมทอง ก่อนที่แพทย์จะส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งแพทย์ต้องผ่าตัดสมองถึง 2 ครั้งเนื่องจากสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก
หลังเกิดเหตุ นายสุแก้ว ยุบยำแสง พ่อและแม่นายวรวิทย์ หรือแท่ง ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.จอมทอง ซึ่งชุดสืบสวน สภ.จอมทอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ ทราบตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุรุมทำร้ายผู้เสียหาย เป็นเยาวชนอายุ 14-15 ปี จึงได้นำตัวมาสอบสวนพร้อมกับผู้ปกครอง และยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปล่อยตัวไปเนื่องจากเป็นเยาวชน
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 กันยายน พ่อกับแม่ผู้เสียหายได้ติดต่อผู้ปกครองเยาวชนรวม 8 คน มาทำบันทึกข้อตกลงที่ทำการผู้ใหญ่บ้านข่วงเปา ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง ซึ่งเยาวชนทั้ง 8 คนรับสารภาพว่าลงมือทำร้ายนายวรวิทย์ หรือแท่ง กระทั่งวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ทั้งสองฝ่ายได้เดินทางมาที่ สภ.จอมทอง เพื่อตกลงเรื่องชดเชยค่าเสียหาย ซึ่งมีเยาวชน 3 คนให้การปฏิเสธ ส่วนอีก 5 คนรับสารภาพว่าก่อเหตุทำร้ายนายวรวิทย์ จนมีการเจรจาค่าเสียหายเพียง 5 คนเท่านั้น
นางเรนู วิเตียนจม แม่น้องแท่ง กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังลูกถูกรุมทำร้ายหมอได้แจ้งว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักจนทำให้กะโหลกศีรษะยุบมีเลือดคั่งในสมอง ต้องผ่าตัดถึง 2 ครั้ง ใช้เวลารักษาอยู่ในโรงพยาบาล 2 เดือน หลังจากนั้นหมอส่งตัวกลับมารักษาอยู่ที่บ้านสภาพเป็นผู้ป่วยติดเตียง สมองยุบ ตาข้างขวาบอด ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้กลายเป็นคนพิการ ต้องกินอาหารอ่อนทางสายยาง ซึ่งตอนนี้เป็นแผลกดทับต้องส่งตัวไปล้างแผลที่โรงพยาบาลที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 20 กม.ทุกวัน
“หลังจากลูกชายจะออกจากโรงพยาบาล ฉันได้สอบถามอาการจากหมอ ทราบว่าลูกจะเป็นผู้ป่วยติดเตียงไปอีกนานทำให้ฉันและครอบครัวต่างหมดกำลังใจที่ลูกชายที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงต้องอยู่ในสภาพนี้ เนื่องจากฉันก็อายุมากแล้วไม่รู้ว่าจะมีเรี่ยวแรงอยู่ดูแลลูกได้อีกนานแค่ไหน”
ขณะนี้ครอบครัวต้องอยู่ด้วยความยากลำบาก เนื่องจากต้องคอยดูแลป้อนข้าว อาบน้ำ พลิกตัวลูกที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงทุก 2 ชั่วโมง ทำให้ไม่มีเวลาไปรับจ้างหาเงินต้องอยู่ด้วยความลำบาก บางครั้งไม่มีเงินซื้อแม้กระทั่งผ้าอ้อมสำเร็จรูป และอาหารจากโรงพยาบาลให้ลูก ต้องไปหยิบยืมเงินจากญาติเป็นประจำ
ด้านนายสุแก้ว ยุบยำแสง พ่อของผู้เสียหาย กล่าวว่า ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนมาก หลังจากที่ลูกชายถูกรุมทำร้ายกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงต้องเสียเงินในการรักษาน้องแท่งตลอดระยะเวลา 4 เดือนหมดเงินไปประมาณ 2 แสนบาท หนำซ้ำคู่กรณีก็ไม่เหลียวแล ที่ผ่านมามีการตกลงกับคู่กรณีว่าจะจ่ายค่าเสียหายให้ลูกรายละ 5 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 250,000 บาท
แต่ผ่านไป 4 เดือนมีคู่กรณีจ่ายมาเพียง 3 คนเป็นเงิน 6 หมื่นบาทเท่านั้น และไม่เคยมาเหลียวแลอีกเลย นอกจากนี้ เรื่องคดีความก็ยังไม่มีความคืบหน้า ก่อนหน้านี้ตนและญาติได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงใหม่ เรื่องกลับเงียบอีกเช่นเดิม
ต่อมาทางญาติได้โทรศัพท์สอบถามความคืบหน้าของคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรจอมทอง ทราบว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงเลขคดีรับแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ส่วนสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ส่งสำนวนให้อัยการเนื่องจากเป็นคดีเยาวชนต้องรอผลประวัติจากสถานพินิจและความละเอียดรอบคอบในการทำสำนวนทำให้การดำเนินการล่าช้า ซึ่งหลังจากนี้จะได้มีการเรียกสอบปากคำเพิ่มเติมทั้งสองฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง