วันนี้ (9 มี.ค.) นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนสิ่งแวดล้อม พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกมาตอบโต้ความเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหา PM 2.5 ว่า แนวทางของตนเป็นแค่นโยบายฝุ่นจับต้องไม่ได้ เพราะต้องแบ่งการแก้ปัญหาระยะออกเป็นระยะสั้น กลาง ยาว และดำเนินการอยู่นั้น
“คงต้องบอกว่า แม้แต่นโยบายระยะสั้น ท่านอยู่ในตำแหน่งมา 4 ปีแล้ว ก็ยังไม่เห็น เห็นมีแต่นโยบายระยะเกรงใจนายทุนมาตลอด หากเทียบกับเด็กเพิ่งเกิดตอนท่านเข้ามารับตำแหน่ง ตอนนี้เขาอายุ 4 ขวบ ท่านควรไปขอโทษเด็กดีกว่า ที่ต้องเกิดมาสูดควันพิษแบบนี้ทุกปี”
นายนิติพล ยังกล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอบคุณรัฐมนตรีวราวุธที่ติดตามข้อเสนอของตนมาตลอดตั้งแต่ปี 62 ทั้งการอภิปรายในสภาและนอกสภา และเห็นด้วยว่า การแก้ปัญหาต้องแบ่งเป็นระยะสั้น กลาง ยาว ซึ่งเรื่องนี้คณะอนุกรรมาธิการการศึกษาแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศ ที่ตนเป็นประธาน ได้ทำการศึกษาและมีข้อเสนอทุกระยะออกมา โดยผ่านสภาและส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 63 แล้วเป็นอย่างน้อย ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ตนเพิ่งเสนอแนะท่านรัฐมนตรีวราวุธ ไปเมื่อวันก่อน ดังนั้น แนวทางที่หลายฝ่ายช่วยกันศึกษาและผ่านสภามาจึงจับต้องได้ ไม่ใช่นโยบายฝุ่นอย่างแน่นอน
“ท่านเองก็เอาแนวทางจากรายงานฉบับนี้ไปใช้ แต่เสียดายที่ใช้เพียงบางส่วน นั่นจึงทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ความรุนแรงของปัญหาจึงยังคงเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลงมาจนถึงปัจจุบัน”
ทั้งนี้ นายนิติพล ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หากจะเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาไม่ต้องไปมองไกลตัว แค่ในอาเซียนด้วยกัน อย่างกรณีฝุ่นพิษจากการเผาปาล์มในอินโดนีเซียที่เคยหนักมาก แต่เมื่อควันลอยเข้าไปในสิงคโปร์ ทางรัฐบาลสิงคโปร์ที่ไม่เพิกเฉยจึงเข้าเจรจาระหว่างประเทศเพื่อแก้ปัญหาโดยเร็ว ปัญหาจึงถูกแก้ไข นี่จึงเป็นความแตกต่างเด่นชัดระหว่างความเพิกเฉย แก้ตัวไปปีต่อปี กับรัฐบาลที่พร้อมแก้ปัญหาทันทีที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายรุนแรงคลี่คลายไปได้
