เชียงใหม่ - เชียงใหม่ฝุ่นควันพุ่งไม่หยุดทะยานยึดอันดับที่ 5 เมืองหลักค่ามลพิษอากาศแย่ที่สุดในโลก พบผลตรวจวัดคุณภาพค่าสูงทะลุเกณฑ์มาตรฐานทุกสถานีและมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่ไฟไหม้ป่าอำเภอฮอดยังหนัก เร่งระดมทุกหน่วยช่วยดับไม่ได้ยั้ง
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ตลอดทั้งช่วงเช้าวันนี้ (14 ก.พ. 66) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันหนาทึบจนมองเห็นท้องฟ้ามีสีขุ่นมัวชัดเจน เช่นเดียวกับค่ามลพิษอากาศที่ผลการตรวจวัดพบค่าสูงเกินมาตรฐานต่อเนื่องตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา ขณะที่รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่เช้าวันนี้จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบว่าสูงเกินค่ามาตรฐานทุกสถานี
โดยพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้อยู่ที่ 66 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 68 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 53 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 114 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร,196 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 187 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 139, 144,106,224,306 และ 297 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐาน 100 ซึ่งภาพรวมถือว่าอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ขณะที่เว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 169 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 91.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อทุกคน โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศดังกล่าวถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 5 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก และอันดับสูงกว่ากรุงเทพฯ ที่อยู่อันดับ 38 ตรวจวัดในเวลาเดียวกันมีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 76 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 23.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 เมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน ดัชนีคุณภาพอากาศ 198 US AQI, อันดับ 2 เมืองธากา ประเทศบังคลาเทศ 178 US AQI และอันดับ 3 เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา 171 US AQI
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในส่วนของสถานการณ์ไฟไหม้ป่าในพื้นที่อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมานานกว่าสองสัปดาห์แล้วนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงระดมกำลังกันและใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องในการดับไฟทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศ นอกจากนี้พบว่ามีอีกหลายพื้นที่ที่เกิดไฟไหม้ป่าเช่นกัน ทำให้เกิดฝุ่นควันจากไฟไหม้สะสมและส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ ซึ่งทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการออกคำสั่งห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดอย่างเด็ดขาดแล้ว เพื่อควบคุมและบรรเทาสถานการณ์ปัญหา