xs
xsm
sm
md
lg

ไฟไหม้ป่า "ฮอด" ยังหนัก ดันค่ามลพิษอากาศเชียงใหม่พุ่งติดลมบน-ระดมกำลังเร่งดับทั้งภาคพื้นดินและบินโปรยน้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - เชียงใหม่ค่าฝุ่นควันไฟป่าและมลพิษอากาศติดลมบนพุ่งเกินเกณฑ์กระทบสุขภาพ ขณะที่ไฟไหม้ป่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวงยังหนักต่อเนื่องกว่าสัปดาห์ ระดมกำลังทุกฝ่ายเกี่ยวข้องเข้าดับไฟทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศไม่หยุด แต่ยังเอาไม่อยู่ เหตุเจออุปสรรคสภาพพื้นที่ภูเขาสูงชันยากเข้าถึง


วันนี้ (13 ก.พ. 66) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า สถานการณ์ฝุ่นควันไฟป่าและมลพิษอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะไฟไหม้ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง อำเภอฮอด ที่เกิดไฟไหม้ป่ามานานกว่าสัปดาห์แล้ว โดยไฟไหม้ป่าดังกล่าวนี้ส่งผลอย่างยิ่งที่ทำให้ค่ามลพิษอากาศของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในระดับสูงเกินค่ามาตรฐานและกระทบสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอฮอด และใกล้เคียง ที่ผลตรวจวัดค่ามลพิษอากาศสูงที่สุดเป็นลำดับต้นๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างระดมกำลังกันเข้าทำการดับไฟทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศอย่างต่อเนื่องทุกวันและตลอดทั้งวัน โดยพบปัญหาอุปสรรคในเรื่องของสภาพพื้นที่ที่เป็นภูเขาสูงชันและห่างไกลยากที่จะเข้าถึงจุดเกิดไฟไหม้

ทั้งนี้ รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้อยู่ที่ 48 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 51 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 34 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 92 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร,178 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 131 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 92, 101, 43, 202, 288 และ 241 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐาน 100 ซึ่งภาพรวมถือว่าอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ


ขณะที่นายจักรินทร์ สิรินทรภูมิ นายอำเภอฮอด เปิดเผยว่า สถานการณ์ไฟไหม้ป่าในพื้นที่เวลานี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ระดมกำลังกันเข้าทำการดับไฟทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งล่าสุดจำนวนจุดความร้อนจากการเผาหรือฮอตสปอตถือว่าลดลงบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสถานการณ์คุณภาพอากาศยังอยู่ในระดับที่วิกฤตและต้องมีการแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังป้องกันรักษาสุขภาพตัวเอง ขณะที่ในเรื่องของการบริหารจัดการเชื้อเพลิงด้วยการเผานั้น เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงสถานการณ์วิกฤตจึงขอความร่วมมือให้งดทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์คลี่คลายจะมีการพิจารณาอนุญาตให้สามารถทำได้เท่าที่จำเป็น

ส่วนนายศุภฤกษ์ เลิศลักษณ์ศิริกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติออบหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ระดมกำลังกันเข้าดับไฟไหม้ป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างเต็มที่และเร่งด่วน เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยยอมรับว่าการทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงชันและหน้าผาทำให้ยากที่จะเข้าถึงและทำการดับไฟได้ยาก สำหรับเชื้อเพลิงที่เผาไหม้นั้นเกิดมาจากใบไม้ในพื้นที่ป่าเต็งรังที่ร่วงหล่นสะสมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งถึงเวลานี้น่าจะถูกเผาไปแล้วประมาณ 70% ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายหมดภายในสิ้นเดือนนี้ อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น