เชียงใหม่ - ตัวแทนสภาลมหายใจภาคเหนือ และเครือข่ายภาคประชาชนยื่นหนังสือจี้ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ประกาศให้อำเภอฮอดเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติมลพิษอากาศ หลังไฟไหม้หนักในเขตอุทยานแห่งชาติออบหลวงติดต่อกันหลายวันแล้ว ส่งผลให้คุณภาพอากาศเลวร้ายเข้าขั้นวิกฤตกระทบสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะดัชนีคุณภาพอากาศพุ่งกว่า 500 US AQI ทะลุเพดานสูงสุดของเครื่องตรวจวัด
วันนี้ (9 ก.พ. 66) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายวิทยา ครองทรัพย์ ตัวแทนกลุ่มประชาคมผู้เฝ้าระวังปัญหา สภาลมหายใจภาคเหนือ ยื่นหนังสือถึง นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเรียกร้องให้ยกระดับความเข้มข้นในการแก้ไขปัญหาไฟไหม้ป่าและมลพิษอากาศในพื้นที่อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยการประกาศให้อำเภอฮอดเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยที่ต้องเร่งจัดการแก้ไขปัญหาไฟป่า และดูแลสุขภาพของประชาชนโดยด่วนที่สุด หลังจากที่เกิดไฟไหม้ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติออบหลวงตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้ค่ามลพิษอากาศ ทั้งค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และดัชนีคุณภาพอากาศ AQI ที่พุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานจนอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพติดต่อกันหลายวันแล้วเช่นกัน โดยนายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้แทนรับหนังสือดังกล่าว
ทั้งนี้ นายวิทยาเปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ไฟป่าและมลพิษอากาศในพื้นที่อำเภอฮอดพบว่าน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง จากการเกิดไฟไหม้ป่าต่อเนื่องกันหลายวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าการเกิดไฟไหม้ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติออบหลวงเป็นการเกิดขึ้นในพื้นที่ซ้ำซากเป็นประจำติดต่อกันมาหลายปี ซึ่งล่าสุดส่งผลให้ค่าฝุ่น PM 2.5 และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เกินค่ามาตรฐานจนเข้าขั้นวิกฤต โดยเช้าวันนี้เครื่องตรวจวัดเซ็นเซอร์รายนาที NTAQHI สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ค่าสีน้ำตาล สูงสุดตามสเกลมาตรฐาน US AQI ที่ระดับเกินจากความสามารถในการวัดค่า หรือ Beyond AQI ซึ่งหมายถึงว่าค่าฝุ่นรายนาทีใกล้เรียลไทม์ ของเครื่องวัดชนิดนี้มีค่าทะลุสูงกว่า 500 US AQI อันเป็นเพดานวัดค่าอากาศสูงสุดที่กำหนดไว้
ขณะที่เทียบกับการอ่านค่ารายชั่วโมงจากเครื่องวัด Dustboy ซึ่งตั้งใกล้เคียงกัน ที่สถานีโรงพยาบาลฮอด เมื่อเวลา 07.00 น. วัดค่าได้ 283 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และผลการตรวจวัดค่าฝุ่น PM 2.5 จากเครื่องตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ที่สถานีบ้านหางดง อำเภอฮอด พบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง อยู่ที่ 176 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และมีค่าฝุ่น PM 2.5 รายชั่วโมงสูงสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลา 24.00 น.ที่วัดค่าได้ 379 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร โดยค่าฝุ่นเฉลี่ยที่สูงมากแตะ 400 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้านี้ และค่าฝุ่นรายชั่วโมงยังใกล้กับ 300 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤตและเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติอำเภอฮอด เพื่อแก้ไขสถานการณ์และคุ้มครองดูแลสุขภาพประชาชน
ด้านนายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางจังหวัดเชียงใหม่รับทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดีและเร่งคลี่คลายสถานการณ์ โดยพบว่าตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมามีจุดฮอตสปอตเป็นจำนวนมากในเขตอุทยานแห่งชาติออบหลวงและคุณภาพอากาศอยู่ในระดับวิกฤต ซึ่งได้มีการระดมเจ้าหน้าที่กว่า 120 นายเข้าพื้นที่ทางภาคพื้นดินเพื่อดับไฟ พร้อมทั้งสนับสนุนอากาศยานจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเข้าร่วมด้วย ตั้งเป้าหมายดับไฟให้ได้ทั้งหมดภายในวันนี้ ทั้งนี้ ยอมรับว่าจุดที่เกิดไฟไหม้อยู่ในเขตอุทยานฯ และไม่ได้เป็นการชิงเผาจัดการเชื้อเพลิง เพราะสั่งห้ามการเผาทุกชนิดตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 66 แล้ว จึงคาดว่าน่าจะเป็นการลักลอบเผา