กาญจนบุรี - "เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช" รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประชุมตั้งสาขาพรรค ลำดับที่ 6 จ.กาญจนบุรี เผยหากได้เป็นรัฐบาลคงไม่จับมือกับฝ่ายตรงข้ามประชาธิปไตย ส่วนพรรคที่ทุ่มซื้อตัว ส.ส.เป็นการลิดรอนประชาธิปไตยแท้จริง
วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่โรงแรมราชศุภมิตร หมู่ 5 ถ.แสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานประชุมโครงการจัดตั้งสาขาพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 6 จังหวัดกาญจนบุรี เป็นสาขาพรรคในภาคกลาง (โซนตะวันตก) เพิ่มอีกหนึ่งสาขา ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ในการประชุม ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565
โดยมีนายอัครนันท์ หรือกอล์ฟ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิก และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 1 นายชูเกียรติ จีนาภักดิ์ สมาชิกและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล สมาชิกและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 นายพนม โพธิ์แก้ว หรือ ส.จ.ไก่ สมาชิกและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 5 รวมทั้งสมาชิกพรรคเพื่อไทย เขต 1 กว่า 100 คน เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ มีนายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย บรรยายพิเศษในหัวข้อเรื่อง ความรู้เกี่ยวกับสาขาพรรคกับการดำเนินการกิจการทางการเมือง ให้สมาชิกทุกคนได้เข้าใจเพื่อนำไปปฏิบัติ
ทั้งนี้ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยก่อนการประชุมว่า จากกรณีมีข่าวว่ามีการแย่งชิงตัวผู้สมัครกันเป็นจำนวนมากถึงขั้นทุ่มเงินซื้อตัวไปนั้น เรื่องนี้ตนมองว่า พรรคการเมืองน่าจะมาแข่งขันกันด้วยนโยบาย เรื่องแคนดิเดตนายกฯ หรือมาแข่งขันกันในเรื่องตัวบุคคลที่จะมาสมัครเป็น ส.ส.ของพรรค ว่าสิ่งเหล่านี้ใครจะเหมาะสมกว่ากัน กับมีการซื้อตัว ส.ส.กันไปนั้น เรื่องนี้ตนคิดว่าไม่ใช่เป็นการส่งเสริมประชาธิปไตย แต่เป็นการลิดรอนความเป็นประชาธิปไตยที่ชัดเจน ซึ่งมันเป็นการแข่งขันที่ไม่มีความเป็นเสรี ไม่ใช่เป็นการแข่งขันในระบอบประชาธิปไตย
ส่วนกรณีที่ทางพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรี ครบทั้ง 5 เขต โดยเฉพาะเขต 3 นั้นเป็นเพราะว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาหาตัวผู้สมัครที่เหมาะสม แต่ตราบใดที่ยังพอมีเวลาอยู่เราจะยังไม่เปิดตัว แต่ถ้าหากมีผู้ที่มาสมัครมีความเหมาะสมที่สุด ทางพรรคจะเลือกคนนั้น
สำหรับนโยบายเรื่องเพิ่มค่าแรงขึ้นเป็นวันละ 600 บาทนั้น นโยบายนี้เป็นเรื่องที่ทำได้ หลายคนที่กำลังวิตกกังวลโดยเฉพาะทางผู้ประกอบการ การที่เราคิดนโยบายค่าแรง 600 บาทขึ้นมานั้นจะเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2570 หรือประมาณอีก 4 ปีข้างหน้า และเมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เราจะมีการพัฒนาอะไรต่างๆ อีกมากมายเพื่อให้ประชาชนได้มีงานทำ มีอาชีพ ซึ่งจะส่งผลให้ปี พ.ศ.2570 นั้นมีแรงงานที่มีคุณภาพ ซึ่งเราจะต้องมาพัฒนาคุณภาพของแรงงาเหล่านี้ด้วย และนอกจากนี้ เราจะส่งเสริมการประกอบอาชีพทั้งหลายทั้งปวง ทั้งทางด้านโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหลาย เพราะฉะนั้นเมื่อถึงปี พ.ศ.2570 ผู้ประกอบการเหล่านี้จะมีความพร้อมมากขึ้นในการที่จะจ่ายค่าแรงวันละ 600 บาท
ขอฝากไปถึงพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรีว่า ส.ส.ที่ทางพรรคเพื่อไทยส่งลงสมัครทั้ง 5 เขตนั้น ทางพรรคได้กลั่นกรองตัวผู้สมัครมาเป็นอย่างดี ขอให้ทุกท่านดูนโยบายของพรรครวมทั้งแคนดิเดตตัวของนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยอาสาเข้ามาในยุคที่มีการผันแปรมาสู่ยุคที่มีประชาธิปไตยเต็มใบ ซึ่งเราจะสู้อย่างเต็มที่เพราะอยากจะพาประเทศชาติที่อยู่ในยุคที่รัฐบาลเก่าทำไว้อย่างทรุดโทรม และล่าช้าไป 8-9 ปี อีกทั้งยังทำให้ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของประเทศ พรรคเพื่อไทยจึงอาสาเข้ามาเพื่อจะกอบกู้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางการเมืองต่างๆ เพื่อให้ประเทศไทยมีจุดยืนในสายตาต่างประเทศที่สง่างามต่อไป
ถามว่าดูจากตัวผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยแล้วล้วนมีแต่คนรุ่นใหม่ เรื่องนี้จะสามารถเอาชนะผู้สมัครรุ่นเก่าได้หรือไม่นั้น ระหว่างผู้สมัครที่เป็นคนรุ่นใหม่กับรุ่นเก่า ทางพรรคมีความต้องการผู้สมัครรุ่นใหม่มากกว่า แต่ขณะเดียวกัน เรามีผู้สมัครรุ่นเก่าส่วนหนึ่งเข้ามาคอยเป็นพี่เลี้ยงเรื่องต่างๆ ให้ด้วย ซึ่งคิดว่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์
ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะร่วมกันกับพรรคใดเพื่อร่วมกันจัดตั้ง ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นเรื่องอนาคต เนื่องจากการที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคใดนั้นจะต้องมาดูเรื่องของอุดมการณ์ด้วยว่าไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ เช่น พรรคเพื่อไทยอยู่ฝั่งประชาธิปไตย แต่ถ้าจะไปจับมือกับฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามดูแล้วก็คงจะไม่เหมาะสม ทั้งหมดนี้หากได้รับผลการเลือกตั้งกันแล้ว จึงจะมาดูกันอีกครั้งหนึ่งว่าจะจับมือกับพรรคใดที่มีความเหมาะสมในการนำรัฐบาลของเราไปสู่เป้าหมายในการที่จะทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติบ้านเมืองของเรา
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่เมื่อไหร่นั้น เรื่องนี้คงจะคาดเดาลำบาก เพราะการที่รัฐบาลจะยุบสภาเขาจะต้องดูก่อนว่าเขาอยู่ในท่าทีที่ได้เปรียบพรรคการเมืองอื่นหรือไม่