ตราด -กรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเวทีประชุมรับฟังความเห็นหน่วยงานต่างๆ และชาวบ้านใน จ.ตราด ก่อนกำหนดแผนพัฒนาการท่องเที่ยวและการค้าเชื่อมโยงกับประเทศกัมพูชา
วันนี้ (6 ต.ค.) นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนจัดทำร่างผังเมืองรวม ครั้งที่ 2 ผังเมืองรวมเมืองตราด (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยส่วนผังเมืองรวมที่ 1 สำนักผังเมืองร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาฯ จัดขึ้นและมีหน่วยภาครัฐ เอกชน และประชาชนเข้าร่วม ณ ห้องประชุมโรงแรมตราดซิตี้ ต.วังกระแจะ อ.เมืองตราด
ขณะที่ นางสาววิยดา ทรงกิตติภักดี ผู้อำนวยการส่วนผังเมืองรวมที่ ๑ สำนักผังเมืองรวม กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เสนอแนวทางการพัฒนาจังหวัดตราด ตามที่ได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเป็น 2 แนวทาง คือ 1.แนวทางด้านการรองรับการท่องเที่ยว ที่จะมุ่งการพัฒนา อ.แหลมงอบ และ อ.เขาสมิง ที่จะเป็นประตูผ่านไปยัง อ.เกาะช้าง ให้เป็นศูนย์กลางการรองรับการท่องเที่ยวชายฝั่ง โดยจะต้องไม่กระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน
2.แนวทางการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่จะต้องสามารถต่อยอดการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ของ จ.ตราด และระบบโลจิสติกส์ในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกได้ แต่ข้อเสียคือ ยังมีแนวนโยบายที่ไม่แน่นอนโดยเฉพาะในเรื่องระยะเวลาการดำเนินงาน
ขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมได้เสนอให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจของ จ.ตราด ด้วยการยกระดับภาคธุรกิจบริการให้ได้มากกว่าร้อยละ 47 รวมทั้งยกระดับการค้าชายแดนและเกษตรกรรม
นอกจากนั้น ยังขอให้มีการผลักดันการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะถนนที่จะเชื่อมโยงการท่องเที่ยวและการค้าชายแดนไปยังประเทศกัมพูชาที่มีดินแดนติดต่อกับไทย เพื่อดึงนักท่องเที่ยวจากกัมพูชาให้มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับการผลักดันให้มีการเปิดจุดผ่านแดนใน อ.บ่อไร่ และ อ.เมืองตราด เพื่อเชื่อมโยงกับ จ.พระตะบอง และ จ.โพธิสัต ของประเทศกัมพูชา
ด้าน นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เผยถึงแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวของตราด นับจากนี้คือการเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งการพัฒนาสนามบิน เพื่อรองรับทั้งการเดินทางมาของนักท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้าทางอากาศที่สามารถเชื่อมโยงไปยังกัมพูชาได้
สำหรับการจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในครั้งนี้ เพื่อนำข้อเสนอที่ได้ไปเป็นส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางพัฒนาเมืองตราดในอนาคต รวมทั้งจะนำไปเป็นกรอบในการจัดทำผังเมืองต่อไป
