xs
xsm
sm
md
lg

ทสม.ระยองยื่น 5 ข้อเรียกร้องประธาน คกธ.จี้ SPRC แจงปริมาณน้ำมันรั่วที่แท้จริง พร้อมเร่งเอาผิดตาม กม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ระยอง - ประธาน กมธ.องค์กรอิสระฯ ลงพื้นที่ จ.ระยอง รับ 5 ข้อเรียกร้องจาก ทสม.ระยอง หลังเหตุน้ำมันรั่วกลางทะเลทำทุกภาคส่วนกระทบหนัก จี้เร่งรัดสอบสวนเอาผิดผู้ที่ทำให้เกิดการรั่วไหลในรอบที่ 2 เร่ง SPRC แจงปริมาณน้ำมันรั่วที่แท้จริง

จากเหตุการณ์น้ำมันหลายหมื่นลิตรรั่วกลางทะเลมาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา จนส่งผลให้มีคราบน้ำมันถูกพัดขึ้นฝั่งโดยเฉพาะชายหาดแม่รำพึง จนทำประชาชนในพื้นที่ ผู้ทำการค้าริมชายหาดและผู้ประกอบการท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มประมงพื้นบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

และยังเกิดเหตุน้ำมันค้างท่อรั่วซ้ำในจุดเดิมเป็นรอบที่ 2 อีกจำนวน 5,000 ลิตร เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา จนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเร่งนำบูมล้อมคราบน้ำมันซึ่งมีลักษณะเป็นฟิล์มบางๆ ในพื้นที่ 0.36 ตารางกิโลเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกคลื่นพัดเข้าฝั่งนั้น 


วันนี้ (13 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะได้เดินทางมายังห้องประชุมเทศบาลตำบลบ้านเพ เพื่อประชุมและพิจารณาการดำเนินงานของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาคราบน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลระยอง จนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง และเกาะเสม็ด

โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และ 4 องค์กรภาคธุรกิจท่องเที่ยว ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ระยอง สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.ระยอง สมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด และชมรมผู้ประกอบการร้านอาหาร จ.ระยอง เข้าร่วม

นายจิรายุ เผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ จ.ระยอง ในวันนี้เพื่อรับฟังความคิดเห็นของภาคธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการร้านอาหารเกี่ยวกับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วกลางทะเลของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปเสนอต่อรัฐบาลให้เร่งหาวิธีแก้ไขในทุกมิติ

นอกจากนั้น ยังจะมีการเสนอให้สนับสนุนงบประมาณด้านการท่องเที่ยว และพัฒนาจังหวัดระยองเพิ่มขึ้นอีกด้วย


ด้านนายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) จ.ระยอง ได้ยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.เร่งรัดสอบสวนสาเหตุของการรั่วไหลในคืนวันที่ 25 ม.ค.2565 รวมทั้งจำนวนน้ำมันที่แน่นอนเพื่อแถลงให้ประชาชนทราบ

2.เร่งรัดสอบสวนเอาผิดผู้ที่กระทำให้เกิดการรั่วไหลซ้ำในวันที่ 10 ก.พ.2565 ให้เป็นตามกฎหมายแพ่งและอาญา 3.เร่งรัดการชดเชยให้ประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบโดยยึดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 เป็นบรรทัดฐาน และให้จ่ายเงินก่อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

4.บังคับให้บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ตั้งมูลนิธิฟื้นฟูทะเลระยอง โดยมีกรรมการบริหารแบบมีส่วนร่วม และ 5.บังคับให้มีการยกท่อส่งน้ำมันใต้ทะเลใต้ดินขึ้นบนบกทั้งหมด เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำในอนาคต

ทั้งนี้ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องต้นยังไม่พบความเสียหายที่เกิดกับระบบนิเวศใต้ทะเล ทั้งปะการัง หญ้าทะเล รวมถึงสัตว์น้ำ แต่ในระยะยาวประมาณ 2-3 ปี สารเคมี Dispersant ที่ใช้สลายคราบน้ำมันตกใต้ท้องทะเลอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของปะการัง และสัตว์น้ำให้ปรากฏเห็นเรื่อยๆ 

แต่หากพบว่ามีการกระทบต่อระบบนิเวศจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น