ระยอง –ประมงพื้นบ้านท้องถิ่นระยองยื่น 4 ข้อเรียกร้อง ผวจ.เปิดเผยปริมาณน้ำมันรั่วไหล-การใช้สารเคมีกำจัดคราบน้ำมันที่แท้จริง เรียกร้องบริษัทผู้ก่อมลพิษรับผิดชอบทั้งหมด ขณะที่ผู้บริหาร SPRC ยันชดเชยเต็มที่พร้อมฟื้นฟูทะเลร่วมหน่วยงานรัฐและชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ ( 4 ก.พ.) นายวีรศักดิ์ คงณรงค์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านท้องถิ่นระยอง พร้อมสมาชิกเครือข่ายกลุ่มประมงคลองกระเชอและกลุ่มต่างๆ กว่า 400 คน ได้รวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดระยอง เพื่อยื่นหนังสือข้อเสนอและข้อเรียกร้องเกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำมันรั่วกลางทะเล ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง
โดยมี นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง รับหนังสือพร้อมรับปากว่าจะดำเนินการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้วยความเป็นธรรมและรวดเร็ว
นายกสมาคมประมงพื้นบ้านท้องถิ่นระยอง เผยว่าการรวมตัวกันของกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กหลายชุมชนและกลุ่มผู้ประกอบการต่อเนื่องประมงในวันนี้ ก็เพราะมีความข้องใจเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารเรื่องจำนวนน้ำมันที่รั่วไหลกลางทะเลซึ่งข้อมูลที่ได้จากหน่วยงานรัฐ และบริษัทเจ้าของน้ำมันไม่มีความชัดเจน ทำให้กลุ่มประมงกังวลเรื่องการฟื้นฟูทะเลในอนาคต
“ เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีสารตกค้างในทะเลจำนวนเท่าใด เนื่องจากข้อ ปริมาณน้ำมันและการใช้สารเคมีในการสลายคราบน้ำมันให้จมใต้ทะเล ไม่ชัดเจน อีกพวกเรายังมีประสบการณ์จากเหตุน้ำมันรั่วเมื่อปี 2556 ที่การดำเนินคดียังอยู่ในการพิจารณาทั้งในศาลจังหวัดและศาลปกครองระยอง จึงไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย”
นายกสมาคมประมงพื้นบ้านท้องถิ่นระยอง ยังเผยถึงข้อเรียกร้องต่อทางจังหวัด 4 ข้อประกอบด้วย 1.อย่าปกปิดความจริงซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัทเจ้าของน้ำมันควรเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด และสาเหตุของการเกิดน้ำมันรั่วในครั้งนี้
2.อย่าแก้ปัญหาเพียงแค่ให้คราบน้ำมันหายไปจากสายตา3. อย่าละเลยเรื่องการประเมินมูลค่าความเสียหายและผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเล และ 4.ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำหน้าที่กำกับดูแลให้บริษัทผู้ก่อมลพิษต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด.
ผู้บริหาร SPRC พบปะพูดคุยกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านยันเยียวยาผลกระทบเต็มที่
และในวันเดียวกัน ผู้บริหาร บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ยังได้ลงพื้นที่มอบถุงห่วงใยให้กับชาวบ้านและชาวประมงผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งรับฟังพูดคุยถึงปัญหาผลกระทบที่เกิดจากในพื้นที่ พร้อมยืนยันว่าบริษัทฯ พร้อมให้การช่วยเหลือและเยียวยาให้ความช่วยเหลือ ขณะเดียวกันยังพร้อมร่วมทำงานในการฟื้นฟูกับหน่วยงานภาครัฐและชาวบ้าน
ขณะที่ นายวิสุทธิ์ สุขจันทร์ ประธานกลุ่มประมงบ้านเพ รองนายกสมาคมเรือเล็กระยอง เผยว่ารู้สึกดีใจที่บริษัทฯเข้ามาช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและพร้อมชดเชยเยียวยาอย่างเท่าเทียมกัน
“ แต่สิ่งที่สำคัญคือต่อจากนี้คือผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเลในระยะยาว ซึ่งหากบริษัทน้ำมันยินดีรับผิดชอบชดใช้ทั้งหมดและร่วมทำงานกับหน่วยงานองค์กรต่างๆ และกลุ่มชาวประมงที่มีประสบการณ์ด้านการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางทะเลก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะกลุ่มประมงเคยมีสบการณ์จากการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมจากเหตุน้ำมันรั่วในปี 2556 มาแล้ว “
พร้อมเรียกร้องให้มีการทำข้อตกลงร่วมกัน หรือออกเป็นกฎหมายข้อบังคับสำหรับอุตสาหกรรมใหญ่และปิโตรเคมี ว่าหากสร้างผลผลกระทบกับทะเลจะต้องรับผิดชอบชดใช้เยียวยาฟื้นฟูทั้งระบบ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวหรือจนกว่าสิ่งแวดล้อมทางทะเลจะกลับสู่สภาวะปกติ