บุรีรัมย์ - พ่อแม่และญาติหนุ่มเกย์นิมนต์พระทำพิธีเชิญดวงวิญญาณลูกกลับบ้าน ผงะเจอสายสิญจน์ปริศนาอยู่จุดที่พบโครงกระดูก เชื่อถูกฆาตกรรมแล้วสะกดวิญญาณเอาไว้ ขณะชุด EOD และพิสูจน์หลักฐานยังลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติมเร่งคลี่คลายคดี
วันนี้ (11 ก.พ.) ความคืบหน้ากรณีที่ชาวบ้านไปหาเก็บของป่า แล้วพบโครงกระดูกมนุษย์บริเวณถ้ำหมาป่าด้านทิศตะวันออกเขาอังคาร ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ทั้งพบบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ เสื้อผ้า และทรัพย์สินต่างๆ ที่ระบุว่าเป็นของ นายณัฎฐกรณ์ ฉนำกลาง หรือต่อ อายุ 38 ปี ชาว ต.เจริญสุข ที่หายตัวจากบ้านอย่างเป็นปริศนาตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2564 กระทั่งวันที่ 12 ธ.ค. 2564 ได้มีชาวบ้านที่ไปหาเก็บเห็ดบนเขาอังคารเจอรถจักรยานยนต์ของนายต่อจอดทิ้งไว้ในป่าเขาอังคาร ด้านทิศตะวันตกของบ้านเจริญสุขห่างจากหมู่บ้านราว 2 กิโลเมตร แต่กลับไม่พบนายต่อ กระทั่งผ่านไปนานกว่า 2 เดือน คือเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 65 ที่ผ่านมาได้พบโครงกระดูกที่ญาติเชื่อว่าเป็นของนายต่อ ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้ นายชวน และนางประภาดา ฉนำกลาง พ่อแม่ของนายณัฎฐกรณ์ หรือต่อ รวมถึงญาติพี่น้อง ได้นิมนต์พระครูพนม ธรรมาภินันท์ เจ้าอาวาสวัดเขาอังคาร และเจ้าคณะตำบลเจริญสุข ไปทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณของนายต่อบริเวณจุดที่พบโครงกระดูกกลับบ้านตามความเชื่อ ทั้งนี้ยังพบด้ายสายสิญจน์ปริศนาตกอยู่บริเวณที่ทำพิธี ตามที่พระ จ.เพชรบูรณ์เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าให้หาสายสิญจน์ให้เจอ เพราะต่อถูกทำพิธีสะกดวิญญาณเอาไว้ เมื่อเจอด้ายสายสิญจน์ดังกล่าวทำให้ญาติเชื่อว่านายต่อ ถูกฆาตกรรมแล้วคนที่ทำก็สะกดวิญญาณเอาไว้ จึงได้ให้พระช่วยทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณของลูกชายด้วย ขณะเดียวกันได้มอบด้ายสายสิญจน์ที่เจอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำไปตรวจสอบด้วยว่าเป็นของใคร
นางประภาดา ฉนำกลาง แม่นายต่อ ได้กล่าวภายหลังทำพิธีว่า ส่วนตัวเชื่อว่าลูกชายถูกฆาตกรรมมากกว่าที่จะเดินมาหลงป่าแล้วเสียชีวิต หรือฆ่าตัวตาย ส่วนที่นายเต่า ชายคนสนิทของลูกชายที่อยู่กับลูกชายเป็นคนสุดท้ายก่อนจะหายตัวไป ได้กล่าวสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการหายตัวหรือการเสียชีวิตของลูกชายตนเองนั้น ส่วนตัวไม่ได้อยากปรักปรำใคร แต่ถ้านายเต่าบริสุทธิ์ใจจริงก็อยากให้มาสาบานต่อหน้าพระที่วัดเขาอังคาร
ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุด EOD จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยชุดพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และชุดสืบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ ยังคงลงพื้นที่จุดที่พบโครงกระดูก เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม รวมไปถึงกระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ และโน้ตบุ๊กของผู้ตายที่หายไป เพื่อจะได้เร่งคลี่คลายปมและสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของนายต่อ ว่าเสียชีวิตเอง หรือถูกทำให้เสียชีวิต ส่วนโครงกระดูกได้ถูกส่งไปตรวจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์จะรู้ผล อย่างไรก็ตามหลังจากพบโครงกระดูก ตำรวจยังไม่ได้เรียกสอบปากคำใคร ต้องรอผลตรวจสอบโครงกระดูกก่อน