บุรีรัมย์ - แม่หนุ่มเกย์ร่ำไห้ทำใจไม่ได้อยากกอดลูกชายแม้เหลือแต่โครงกระดูก ไม่เชื่อลูกจะฆ่าตัวตายมั่นใจถูกฆาตกรรม วอนตำรวจเร่งพิสูจน์ข้อเท็จจริงและนำตัวคนกระทำมาลงโทษตามกฎหมาย ด้านตำรวจคาด 7 วันรู้ผลตรวจและสาเหตุการตาย
วันนี้ (9 ก.พ.) ความคืบหน้ากรณีที่พบโครงกระดูกมนุษย์บริเวณถ้ำหมาป่าด้านทิศตะวันออกเขาอังคาร ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ทั้งพบบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ เสื้อผ้า และทรัพย์สินต่างๆ ที่ระบุว่าเป็นของ นายณัฎฐกรณ์ ฉนำกลาง หรือต่อ อายุ 38 ปี ชาว ต.เจริญสุข ที่หายตัวจากบ้านอย่างเป็นปริศนา ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2564 กระทั่งวันที่ 12 ธ.ค. 2564 ได้มีชาวบ้านที่ไปหาเก็บเห็ดบนเขาอังคารเจอรถจักรยานยนต์ของนายต่อ จอดทิ้งไว้ในป่าเขาอังคารด้านทิศตะวันตกของบ้านเจริญสุข ห่างจากหมู่บ้านราว 2 กิโลเมตร แต่กลับไม่พบนายต่อ กระทั่งผ่านไปนานกว่า 2 เดือนจึงพบโครงกระดูกดังกล่าวเมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ชุดสืบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ รวมถึงฝ่ายปกครอง และหน่วยกู้ภัย ได้ลงพื้นที่เพื่อค้นหาชิ้นส่วนกระดูกอีกหลายชิ้นที่ยังไม่ครบ เช่น ข้อแขน กระดูกนิ้วมือ รวมไปถึงทรัพย์สิน เช่น โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าเงิน ที่พ่อยืนยันว่าลูกนำติดตัวไปด้วยก่อนหายตัวไป ส่วนโครงกระดูกทางตำรวจได้ส่งไปตรวจพิสูจน์ ที่สถาบันนิติเวช จ.นครราชสีมา คาดว่า 1 สัปดาห์จะทราบผลยืนยันว่าเป็นศพของนายต่อหรือไม่ รวมถึงสาเหตุการเสียชีวิต หลังจากนั้นถึงจะมอบโครงกระดูกให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา
ส่วนนายเต่า ที่เป็นคู่ขาของนายต่อ ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยเพราะอยู่กับนายต่อเป็นคนสุดท้ายก่อนหายตัวไปนั้น ตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้เรียกสอบปากคำ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจชันสูตรศพหรือโครงการกระดูกให้ชัดเจนก่อน ทางพนักงานสอบสวนถึงจะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายต่อหรือไม่
ด้าน นางประภาดา ฉนำกลาง แม่ของนายต่อ พูดทั้งน้ำตาว่า มั่นใจว่าโครงกระดูกที่เจอบนเขาอังคารเป็นลูกชายตนเองแน่นอน เพราะอยู่ห่างจากจุดที่พบรถจักรยานยนต์แค่ประมาณ 2 กิโลเมตร ประกอบกับเอกสารและทรัพย์สินที่พบบริเวณจุดเกิดเหตุก็ยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่าเป็นของลูกชาย แต่ยังไม่กล้าไปดูด้วยตัวเองเพราะยังทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นลูกในสภาพแบบนี้ ซึ่งที่ผ่านมาหลังจากลูกหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา ก็เฝ้าภาวนามาตลอดว่าขอให้ลูกยังมีชีวิตอยู่ แต่หลังจากพบโครงกระดูกเมื่อคืนนอนไม่หลับได้แต่ร้องไห้ ตอนนี้อยากจะกอดลูกชายมากแม้จะเหลือแค่โครงกระดูกก็จะกอดเพราะคิดถึงลูกมาก
“ส่วนตัวไม่เชื่อว่าลูกชายจะฆ่าตัวตาย น่าจะถูกทำร้ายหรือถูกฆาตกรรมมากกว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพิสูจน์ให้ได้ข้อเท็จจริง หากลูกถูกฆาตกรรมจริงก็อยากให้เร่งนำตัวคนกระทำมาลงโทษตามกฎหมาย” นางประภาดากล่าวในตอนท้าย
