กาญจนบุรี - ชาวปิล๊อกคี่ เร่งต้อนฝูงวัวควายลงจากภูเขา หวั่นเป็นเหยื่อเสือโคร่ง หลังพบซากวัวถูกกินเป็นอาหารเหลือแต่โครงกระดูก และกะโหลกรวม 4 ตัว พบควายตัวขนาดใหญ่ถูกกัดที่ขา พร้อมรอยเล็บตะปบ วอนเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ
นายสมยศ ธารารักษ์ ชาวบ้านบ้านปิล๊อกคี่ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ตรวจยึดซากเสือโคร่ง จำนวน 2 ซาก โดยพราน 5 คนได้นำวัวเป็นเหยื่อล่อ แล้วยิงเสือโคร่งตาย 2 ตัว โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 คน อ้างว่าที่ต้องทำเพราะเสือบุกเข้ามากัดกินวัวที่เลี้ยงไว้ โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่มีอาชีพเลี้ยงวัวและควายหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากยังคงมีเสือโคร่งหลงเหลืออยู่ โดยก่อนหน้านี้ พวกตนเองได้ขึ้นไปต้อนวัวกว่า 60 ตัว เอากลับมาเลี้ยงที่ป่าด้านล่างห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร และพบว่ามีวัวของชาวบ้านถูกเสือกัดที่ขาหลังไปหลายตัว
วันต่อมา ขึ้นไปต้อนควายที่เลี้ยงเอาไว้ในป่าห่างจากหมู่บ้านประมาณ 20 กิโลเมตร ระหว่างเดินทางตามหาฝูงควาย ปรากฏว่า พบซากวัวที่เสือล่าไปกินเหลือแต่โครงกระดูกและกะโหลกรวม 4 ตัว แต่ละตัวอยู่ห่างกันประมาณ 2-3 เมตร และนอกจากนี้ ยังพบรอยเท้าเสือ รวมทั้งขี้ของเสือกองอยู่ โดยมีขนของวัวปะปนอยู่ด้วย โดยวัวทั้ง 4 ตัว คาดว่าเป็นของ 5 ชาวบ้านที่ถูกจับดำเนินคดี ซากวัวที่พบตนได้ใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปเอาไว้เพื่อมอบให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ใช้เป็นหลักฐาน
เมื่อไปถึงฝูงควายที่เลี้ยงอยู่ในป่า พบรอยเขี้ยวของเสือโคร่งกัดเข้าที่ขาหลังของควายเพศผู้ตัวขนาดใหญ่จำนวนหลายแผล ส่วนที่ลำตัวมีรอยเล็บตะปบเป็นทางยาวทั้ง 2 ข้าง ทุกคนจึงรีบต้อนฝูงควายลงมาด้านล่าง เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบโดยไม่ต้องเสียเวลาไปติดตามหา
ในระหว่างที่พวกตนกำลังต้อนควายข้ามลำห้วย ผฝพบรอยเท้าของเสือโคร่งสภาพใหม่อยู่ที่พื้น รวมทั้งโขดหิน และที่สำคัญพวกตนได้ยินเสียงของเสือโคร่งร้องคำรามขู่จนทำให้พวกตนไม่กล้าเดินหรือวิ่งไปไหน ต้องรอจนกระทั่งเสียงหายเข้าไปในป่าลึก สำหรับควายตัวที่ถูกเสือกัดนั้นมีราคาอยู่ที่ประมาณ 3-4 หมื่นบาท นายสมยศ เผย
นายประสาท แดงเถิน ผู้ใหญ่บ้านบ้านปิล๊อกคี่ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านจำนวน 6 คน ได้ไปช่วยกันต้อนควายที่เลี้ยงเอาไว้ในป่ากว่า 60 ตัว เพื่อเอามาไว้ด้านล่าง ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร โดยก่อนหน้านี้ ชาวบานได้ไปต้อนวัวกลับมาก่อนแล้วกว่า 40 ตัว ซึ่งชาวบ้านจะจัดเวรยามผลัดกันดูแล เพราะเกรงว่าเสือโคร่งจะตามลงมากินเป็นอาหาร
หลังจากที่ตนเองรับแจ้งจากชาวบ้านว่า วัวและควายถูกเสือโคร่งกัด จึงได้รีบรายงานนายนภเดช เกลียวศิริกุล นายอำเภอทองผาภูมิ รับทราบแล้ว โดยนายอำเภอทองผาภูมิ แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือหาทางป้องกัน เพราะชาวบ้านเกรงว่าเสือโคร่งอาจจะออกมาจากป่าเพื่อมากินวัวและควายเป็นอาหาร