กาญจนบุรี - ยังไม่หมด! เสือโคร่งกัดวัวชาวบ้านปิล๊อกเจ็บอีก เผยทหารกะเหรี่ยงโทร.แจ้ง คาดเป็นเสืออพยพจากพม่า จากสถานการณ์สู้รบด้านชายแดน ด้านเจ้าหน้า ที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบ
วันนี้ (17 ม.ค.) นายประสาท แดงเถิน ผู้ใหญ่บ้านบ้านปิล็อกคี่ หมู่ 4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เผยว่า ได้รับแจ้งจากนายแอที ธนูทอง ชาวบ้านว่า ควายของตน และวัวของเพื่อนบ้านที่นำไปเลี้ยงในพื้นที่ป่าใกล้กับจุดที่ชาวบ้านยิงเสือโคร่งตายไป 2 ตัว พบว่า วัวมีร่องรอยบาดแผลจากการถูกเสือกัดบริเวณต้นขาหลังด้านซ้าย
หลังจากได้รับแจ้งเบื้องต้น จึงได้รายงานให้นายนภเดช เกลียวศิริกุล นายอำเภอทองผาภูมิ ทราบ เพื่อจะได้ประสานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ นำกำลังเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ จากการบอกเล่าของชาวบ้านพบว่า รอยเท้าเสือตัวใหม่ที่พบมีขนาดใหญ่ จึงเชื่อได้ว่าเสือตัวนี้น่าจะมีขนาดใหญ่กว่าเสือ 2 ตัวที่ถูกชาวบ้านยิงตายไปก่อนหน้านี้ และน่าจะเป็นเสือที่เพิ่งอพยพเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากพื้นป่า 1,000 ไร่ ติดกับชายแดนประเทศพม่า ห่างกันแค่ประมาณ 3- 4 กิโลเมตรเท่านั้น
ทั้งนี้ นายราเชน บุญทอง สมาชิก อบต.ปิล๊อก เผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.23 น ของวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา มีทหารกะเหรี่ยงที่อยู่บริเวณเขากระทิง พื้นที่บ้านพอละหม่า ประเทศพม่า ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านปิล๊อกคี่ ได้โทรศัพท์มาสอบถามเหตุการณ์ที่มีชาวบ้านยิงเสือ พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่า เสือทั้ง 2 ตัวน่าจะเป็นเสือที่เคยอาศัยอยู่บริเวณป่าบ้านพอละหม่า เนื่องจากในอดีตมีการพบเสือในพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 5 ตัว
แต่ปัจจุบันสถานการณ์ตามแนวชายแดนฝั่งประเทศพม่าไม่ดีนัก เนื่องจากมีการยิงสู้รบกัน ทำให้กะเหรี่ยงชนกลุ่มน้อยต้องถอยร่นมาอยู่อาศัยในพื้นที่ป่าที่มีการพบเสือโคร่ง ทำให้เสือที่เคยพบทั้ง 5 ตัว อพยพข้ามชายแดนเข้ามาอาศัยและหากินในผืนป่าฝั่งประเทศไทยก็เป็นไปได้ เนื่องจาก 2-3 เดือนที่ผ่านมา ไม่พบร่องรอยเท้าของเสือในพื้นที่ป่าฝั่งประเทศพม่าแล้ว