ระยอง - โอละพ่อ! เจ้าของฟาร์มหูมเมืองแกลง จ.ระยอง ออกโรงโวยขายหมูเป็นกก.ละ 60 บาทไม่มีใครซื้อ ที่แท้บอกเรื่องจริงไม่หมด ทั้งเป็นราคาที่ตกลงกับบริษัทคู่สัญญาว่าจ้างให้เลี้ยงก่อนเกิดสถานการณ์เนื้อหมูแพง และไม่ใช่ราคาสำหรับขายคนทั่วไป พร้อมขอโทษสังคมทำสับสน
จากกรณีที่ นายบรรทม และนางปริญทิพย์ ศึกษา เจ้าของฟาร์หมู “บรรทม ฟาร์ม” ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.ห้วยยาง อ.แกลง จ.ระยอง ได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการไม่สามารถจับหมูในฟาร์มที่มีประมาณ 1,500 ตัวที่ครบกำหนดจับขายได้เนื่องจากถูกผู้ซื้อขอเลื่อนเวลาจับออกไป โดยอ้างว่าเป็นเรื่องของกลไกตลาด ทั้งที่ขณะนี้เนื้อหมูขาดตลาดและมีราคาแพง
โดยเจ้าของ “บรรทม ฟาร์ม” ยังบอกว่าได้ตกลงราคาขายหมูเป็นกับผู้รับซื้อไว้ที่กิโลกรัมละ 60 บาท ซึ่งถือว่ามีราคาสูงกว่าที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในเวลานี้เกือบครึ่ง ซึ่งเมื่อข่าวดังกล่าวถูกนำเสนอต่อสาธารณชนได้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงสถานการณ์ราคาหมูที่แท้จริงนั้น
วันนี้ (19 ม.ค.) นายพนธ์สมิทธ์ กลางนภา ปศุสัตว์จังหวัดระยอง พร้อมด้วย น.ส.สุวีรยา ปั้นปาน พาณิชย์จังหวัดระยอง รวมทั้งปลัดอำเภอแกลง และเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง ได้ร่วมกันเดินทางไปยังฟาร์มเลี้ยงหมูดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมี นางปริญทิพย์ ศึกษา เจ้าของ “บรรทมฟาร์ม” ให้การต้อนรับ
โดย นางปริญทิพย์ เผยถึงกรณีที่ตนเองออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนเรื่องราคาขายหมูเป็นกิโลกรัมละ 60 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าราคาในปัจจุบันเกือบเท่าตัวแต่กลับไม่มีคนรับซื้อ ว่า เป็นเรื่องที่ไม่ต้องการให้ใครเดือดร้อนหรือก้าวล่วงการค้าขายของบริษัทใด เพียงแต่ในวันที่ให้ข่าวกับสื่อมวลชนเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะเรื่องของทำสัญญาล่วงหน้ากับบริษัทคุ่สัญญาที่ว่าจ้างให้เลี้ยงหมู และได้มีการจัดหาลูกหมู อาหาร และยาในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดให้ และเมื่อหมูครบกำหนดจับจะซื้อคืนในราคากิโลกรัมละ 60 บาท
และราคาหมูเป็นกิโลกรัมละ 60 บาท ไม่ใช่ราคาที่ขายให้คนทั่วไป แต่เป็นราคาที่ทำสัญญาไว้กับบริษัทผู้ว่าจ้าง โดยที่ไม่รู้ถึงระบบทางการตลาด
"วันนี้ขอยอมรับผิดที่พูดออกไปเช่นนั้นเพราะเป็นเรื่องรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่ได้มีการประสานไปยังบริษัทที่ว่าจ้างเลี้ยงหมูให้ทราบเรื่องก่อน จึงทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าราคารับซื้อ 60 บาทต่อกิโลกรัมเป็นราคาที่ถูก โดยที่ไม่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับต้นทุนที่บริษัทขายลูกหมูให้เรา รวมทั้งเรื่องของการสนับสนุนเรื่องอาหารและยา จนทำให้คนทั้งประเทศเข้าใจว่าตัวเองถูกกดขี่จากผู้รับซื้อ และยังทำให้มีพ่อค้าหมูจำนวนมากติดต่อขอซื้อหมูในราคากิโลกรัมละ 60 บาท ซึ่งถือเป็นเรื่องเข้าใจผิดและอยากขอโทษประชาชนทั้งประเทศ"
ด้าน นายพนธ์สมิทธ์ กลางนภา ปศุสัตว์จังหวัดระยอง เผยว่า ข้อเท็จของเรื่องดังกล่าวคือ ฟาร์มเลี้ยงสุกรรายนี้ได้ทำสัญญาประกันราคากับบริษัทที่ว่าจ้างให้เลี้ยงหมูโดยกำหนดราคารับซื้อคืนที่กิโลกรัมละ 61 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกำหนดไว้เมื่อประมาณ 4-5 เดือนก่อนที่จะเกิดสถานการณ์ราคาเนื้อหมูแพง
และยังทราบว่าบริษัทผู้ว่าจ้างยังเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเรื่องการจัดหาลูกหมู อาหารและยาให้ผู้เลี้ยงในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด และเมื่อเลี้ยงครบกำหนดจับในวันที่ 1 ก.พ.นี้ จะคำนวณราคารับซื้อและราคาค่าดำเนินการทั้งหมดที่บริษัทออกให้ล่วงหน้าเพื่อหักค่าเป็นค่าใช้จ่าย ที่เหลือจึงเป็นของเจ้าของฟาร์ม
“ส่วนแนวทางในการแก้ไขปัญหานั้น ในวันนี้ได้เชิญผู้จัดการบริษัทซึ่งเป็นคู่สัญญากับฟาร์มดังกล่าวมาพูดคุยกันถึงความเป็นไปได้ในการขยับราคารับซื้อหน้าฟาร์มให้เป็นไปตามสถานการณ์ราคาในปัจจุบัน หรือให้ตกลงกันในราคาที่ทั้ง 2 ฝ่ายพอใจ” นายพนธ์สมิทธ์ กล่าว
ขณะที่ น.ส.สุวีรยา ปั้นปาน พาณิชย์จังหวัดระยอง เผยว่า หลังจากนี้จะได้ทำการตรวจสอบสัญญาระหว่างบริษัทผู้ว่าจ้าง กับเจ้าของฟาร์มหมูดังกล่าวว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ ก่อนจะเสนอเรื่องไปยังกระทรวงพาณชิย์เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมต่อไป