บุรีรัมย์ - แม่ค้าประชาชนบุรีรัมย์โอด ไข่ไก่อาหารหลักของคนมีรายได้น้อยยังปรับขึ้นราคาแล้วจะหันไปกินอะไร วอนรัฐบาลเร่งแก้ไขพยุงราคาอย่าให้ปรับ เพราะกระทบทำให้ภาระค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น สวนกระแสกับภาวะวิกฤตโควิดที่ขายของยากและหากินลำบาก
วันนี้ (11 ม.ค.) หลังจากสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ซึ่งเป็นผู้กำหนดราคาแนะนำไข่ไก่ในตลาดทั่วไป ได้ประกาศปรับขึ้นราคาไข่ไก่อีกแผงละ 5-6 บาท มีผลวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรยากาศร้านขายไข่เป็ด ไข่ไก่ ในตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ค่อนข้างเงียบเหงา โดยแม่ค้ายอมรับว่าไข่ไก่ทุกเบอร์ได้ปรับขึ้นราคาอีกแผงละ 5 บาท เช่น ไข่ไก่เบอร์ 0 จากปกติแผงละ 120 บาท ปรับขึ้นเป็นแผงละ 125 บาท, ไข่ไก่เบอร์ 1 เดิมแผงละ 110 บาท ปรับขึ้นเป็นแผงละ 115 บาท, ไข่ไก่ เบอร์ 2 เดิมแผงละ 105 บาท ปรับขึ้นเป็นแผงละ 110 บาท ส่วนเบอร์ 3 และเบอร์ 4 ปรับขึ้นแผงละ 5 บาทเช่นกัน ซึ่งพอลูกค้าเดินมาถามพบว่าราคาไข่ไก่ปรับขึ้นบางคนก็ซื้อบางคนก็ไม่ซื้อ ทำให้ส่งผลกระทบต่อยอดขายลดลง
ขณะที่ลูกค้าต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า หากราคาไข่ไก่ซึ่งถือเป็นอาหารหลักของผู้มีรายได้น้อยยังปรับราคาสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างแน่นอน เพราะต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น เพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่ไข่ไก่ ทั้งหมู ผักก็แพงเช่นกัน จึงอยากให้รัฐบาลเร่งหาแนวทางหรือมาตรการแก้ปัญหาข้าวของแพงด้วย
นางรัชยา รัชตานนท์ ผู้บริโภค บอกว่า ปกติจะซื้อไข่ไก่ไปประกอบอาหารที่บ้านรับประทานเป็นประจำ เพราะเป็นอาหารที่มีประโยชน์และรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย ประกอบกับราคาประหยัดด้วย แต่หลังจากที่มีการปรับขึ้นราคาอีกต้องได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะทำให้ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น และหากราคาไข่แพงขึ้นมากกว่านี้อาจจะต้องหันไปบริโภคอย่างอื่นแทนก็เป็นได้ แต่หากเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาหรือพยุงราคาทั้งไข่ไก่ และหมู ไม่ให้แพงขึ้นกว่านี้ เพราะจะทำให้ประชาชนผู้บริโภคเดือดร้อน
ด้าน นางกฤษณากรณ์ มะนิตรัมย์ แม่ค้าขายปลีกไข่ไก่ในตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ บอกว่า หลังจากที่มีการประกาศปรับขึ้นราคาไข่ไก่ ส่งผลทำให้ยอดขายลดลงเพราะลูกค้าบางคนที่เข้าใจจะซื้อ แต่บางคนไม่เข้าใจพอเดินมาเห็นราคาก็ไม่ซื้อ จึงจำเป็นต้องสั่งไข่ไก่มาขายน้อยลงกว่าเดิม อยากให้ภาครัฐได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่แพงไม่ให้แพงขึ้นกว่านี้อีก ไม่เช่นนั้นจะกระทบทั้งคนขายและคนซื้อแน่นอน
