จันทบุรี - ร้านโจ๊กหมูข้าวกล้องชื่อดังเมืองจันทบุรี วอน "ลุงตู่" เลิกแจกเงินประชาชนแต่ให้หันมาแก้ไขราคาสินค้าแพง เชื่อสร้างความพอใจให้ประชาชนได้อย่างแท้จริง เผยต้นทุนวัตถุดิบพุ่งสูงเกือบทุกชนิด แต่ยังไม่ขึ้นราคาขายเพราะสงสารลูกค้า
จากปัญหาราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นเกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ น้ำมันพืช ที่ทำให้ประชาชนทั้งประเทศเริ่มได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ขายอาหารที่ในวันนี้ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นจนแทบจะทำการค้าไม่ได้นั้น
วันนี้ (11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตลาดสดยามเช้าในพื้นที่ จ.จันทบุรี พบว่าร้านขายสินค้าที่มีวัตถุดิบเป็นเนื้อหมูเริ่มทยอยปรับขึ้นราคา แต่ร้านขายโจ๊กหมูข้าวกล้องที่เปิดขายมานานกว่า 10 ปี และมีวัตถุดิบหลักเป็นหมูสับ หมูเด้ง และไข่ ยังคงติดป้ายยืนยันราคาเดิม คือ โจ๊กผู้ใหญ่ใส่ไข่ถุงละ 30 บาท ไม่ใส่ไข่ถุงละ 25 บาท โจ๊กเด็กใส่ไข่ 20 บาท ไม่ใส่ไข่ 15 บาท
จากการสอบถาม นางสุนีย์ สิงห์ศักดิ์เสรี แม่ค้าขายโจ๊ก บอกว่า เริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ทางร้านยังพยายามคงราคาขายไว้ และยังไม่ปรับขึ้นในช่วงนี้เนื่องจากเห็นใจลูกค้า แม้ในแต่ละวันจะใช้หมูสับมากถึงวันละ 12 กิโลกรัม หมูเด้งวันละ 17 กิโลกรัมก็ตาม
โดยราคาหมูเด้งปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 170 บาท ส่วนหมูสับกิโลกรัมละประมาณ 180 บาท ขณะที่ราคาไข่ไก่อยู่ที่แผงละ 86 บาท
"แต่ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ราคาไข่จะขึ้นอีกเท่าใด รวมทั้งราคาก๊าซหุงต้มที่กำลังจะจ่อขึ้นราคาอีกในเดือนหน้า สุดท้ายในส่วนของร้านคงหนีไม่พ้นที่จะได้รับผลกระทบจากสินค้าขึ้นราคาอย่างแน่นอน แต่พยายามคงราคาขายนี้ไว้ให้นานที่สุด ไม่จำเป็นจริงยังไม่อยากขึ้นราคา เห็นใจทุกคนเพราะของมันแพงทุกอย่าง"
นางสุนีย์ แม่ค้าขายโจ๊กยังได้ฝากถึง "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าวันนี้ไม่ต้องแจกเงินให้ประชาชนแล้ว แต่ขอให้ช่วยดูแลปัญหาเรื่องราคาสินค้าแพง หากทำได้เชื่อว่าจะสร้างความพอใจให้ประชาชนมากกว่า