"เอ๊ะ-รณกาจ” ไทยสร้างไทย คุยผู้ค้าเขียงหมู-ร้านอาหาร หลังราคาเนื้อหมูพุ่งกระฉูด เผยหลายร้านต้องหยุดขายชั่วคราว-ลดปริมาณ-ขึ้นราคา ผู้บริโภคสาหัสเจอปัญหารุมเร้า แนะ “จุรินทร์” หัดเดินตลาดบ้าง จะได้เห็นปัญหา
วันนี้ (8 ม.ค.65) นายรณกาจ ชินสำราญ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า หลังเกิดวิกฤตเนื้อหมูราคาแพง ก็ได้ลงพื้นที่สอบถามพ่อค้าแม่ขายถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น พบมีข้อมูลที่น่าสนใจ จากผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก พ่อค้าแม่ค้าเขียงหมู ราคาส่งจากตลาดใหญ่ หรือฟาร์มมาสูง จนขายได้น้อยลง หลายร้านเตรียมปิดขายชั่วคราว กลุ่มที่ 2 เป็นร้านขายอาหาร ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น ไม่เพียงแต่หมู เนื้อสัตว์อื่น รวมถึงผัก และเครื่องปรุง ก็กำลังเริ่มขึ้นราคาตาม หลายร้านเลือกที่จะไม่เพิ่มราคา แต่ลดปริมาณลง ส่วนที่ทนต้นทุนไม่ไหวแล้ว ทยอยปรับราคาขึ้น 5-10 บาทต่อจาน และกลุ่มที่ 3 ในส่วนของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มที่กำลังซื้อน้อย ต้องเลือกที่จะลดการบริโภคลง เพราะไม่รู้จะหาเงินมาจากไหนเพิ่ม และเลือกเปลี่ยนไปกินอย่างอื่นแทน
“ภาวะตอนนี้ลำบากกันหมด ทั้งผู้ประกอบการที่ขายของแทบไม่มีกำไร ไม่พอกับต้นทุนและค่าครองชีพ ผู้บริโภคก็เจอข้าวของแพง หลายคนบอกว่าลำบากมากยุคนี้ อัดอั้นใจมาก ทุกวันนี้ก็ขาดรายได้ เป็นหนี้นอกระบบ กันอยู่แล้ว ยังต้องมาเจอของแพง ถือเป็นมรสุมของชีวิตทุกทาง” นายรณกาจ ระบุ
นายรณกาจ กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องไปถึง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ให้เร่งดูแลผลกระทบที่เกิดกับประชาชนอย่างเร่งด่วน และต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ควรทำที่ปลายเหตุอย่างที่กระทรวงพาณิชย์ทำอยู่ เช่น จัดขายหมูราคาถูกจำนวนจำกัด และไม่ครอบคลุมพื้นทีไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค หรือขอให้ผู้ประกอบการตรึงราคา โดยที่ผู้ประกอบการก็ประสบปัญหา จนไม่รู้จะตรึงราคาอย่างไรเช่นกันดังนั้นหวังว่าจะเห็นกระทรวงพาณิชย์ช่วยคนตัวเล็กอย่างเร่งด่วน
“ถ้าท่าน รมว.พาณิชย์ อยู่สูงเกินกว่าจะมองเห็นปัญหา ขอให้ลองมาเดินตลาดและเก็บข้อมูลจากคนค้าขายและผู้บริโภค ซึ่งจะได้ข้อมูลจริงๆ ได้รับรู้ความอัดอั้นตันใจของคนทำมาหากิน และจะได้รู้ว่าคนข้างล่างลำบากเพียงใด และก่อนจะสั่งการอะไร อยากให้เช็คที่ต้นตอ และแก้จากต้นเหตุ ไม่ใช่สั่งจากปลายเหตุ” นายรณกาจ กล่าว.