ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมเจ้าท่าส่งมอบโครงการเสริมทรายชายหาดนาจอมเทียนระยะแรกความยาว 800 เมตร ให้ ทต.นาจอมเทียน พร้อมเตรียมเดินหน้าขยายโครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียนและนาจอมเทียน ระยะทางยาวอีกกว่า 3.5 กม. ภายใต้งบกว่า 586 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จปีหน้า
จากกรณีที่กรมเจ้าท่าได้ดำเนินโครงการเสริมทรายชายหาดพัทยา เพื่อแก้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะระยะยาวก่อนที่สภาพชายหาดจะหายไป และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในอนาคต ก่อนจะต่อยอดโครงการมายังพื้นที่ชายหาดจอมเทียน และนาจอมเทียน จ.ชลบุรี ในระยะที่ 1 ตามเป้าหมายการขยายชายหาดให้มีขนาดกว้าง 50 เมตร กินพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2 แห่งคือ เมืองพัทยาและเทศบาลนาจอมเทียน ในระยะทางยาวรวม 3.5 กิโลเมตรภายใต้งบดำเนินการกว่า 586 ล้านบาทนั้น
วันนี้ (29 ธ.ค.) นายสมพงษ์ จิริศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้เป็นประธานในการส่งมอบพื้นที่ชายหาดจอมเทียน ระยะความยาว 800 เมตร ให้เทศบาลตำบลนาจอมเทียน บริเวณชายหาดจอมเทียน ซอยนาจอมเทียน 2 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
โดยมี นายสมพงษ์ สายนภา นายกเทศมนตรีเทศบาลนาจอมเทียน เป็นผู้รับมอบ และมีตัวแทนจากเทศบาลตำบลนาจอมเทียน กรมเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 ผู้แทนจาก อบจ.ชลบุรี และฝ่ายปกครองเข้าร่วม
รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เผยว่า ที่ผ่านมาพื้นที่ชายหาดพัทยาประสบปัญหาการกัดเซาะรุนแรง กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลโดยตรงต่อการพัฒนาการขนส่งทางน้ำ รักษาร่องน้ำและชายหาดของประเทศ จึงได้ดำเนินการเสริมทรายจนทำให้สภาพชายหาด และการท่องเที่ยวมีประสิทธิภาพมากขึ้น
และยังได้ขยายโครงการมายังพื้นที่จอมเทียน ที่มีปัญหาการกัดเซาะรุนแรงเช่นกัน โดยได้ทำการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน มีระยะความยาว 800 เมตร กว้างเฉลี่ย 51 เมตร ส่งมอบให้เทศบาลตำบลนาจอมเทียน เป็นของขวัญปีใหม่ 2565 หลังว่าจ้างให้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินงานมาตั้งแต่เดือน พ.ค.2563 ภายใต้งบประมาณ 586 ล้านบาท
ส่วนโครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน และนาจอมเทียน ที่มีระยะทางยาวกว่า 3.5 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้ทรายที่มีจากแหล่งทรายใต้ทะเลใกล้เกาะรางเกวียน ห่างจากฝั่งประมาณ 15 กิโลเมตร ในปริมาณกว่า 6.4 แสน ลบ.ม. คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน พ.ย.2565
โดยเชื่อว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบธุรกิจริมชายหาดจอมเทียน ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาการกัดเซาะชายหาดที่รุนแรงได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น ยังเป็นการปรับทัศนียภาพชายฝั่งให้น่าท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
